
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลประเทศในเอเชียได้ใช้เงินทุนสำรองไปแล้ว 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 เพื่อปกป้องค่าเงินตนเองจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
Exante Data Inc. บริษัทติดตามข้อมูลการเคลื่อนไหวของเงินทุนทั่วโลก ได้ประเมินการขายเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในตลาดสปอตของประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย ยกเว้นจีน พบว่ามีการขายเงินดอลลาร์สหรัฐเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือน ก.ย. และเมื่อรวมกับการขายเงินสกุลดอลลาร์ของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์
Exante ระบุว่า การขายเงินสกุลดอลลาร์ในภูมิภาคเอเชียในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าถึง 8.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อรวมการขายของญี่ปุ่นด้วย ทำให้เป็นช่วงเวลาที่มีการขายเงินสกุลต่างประเทศมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551
การเพิ่มขึ้นดังกล่าว เกิดขึ้นขณะที่ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับตระกร้าเงินสกุลหลักอื่นๆ มีการซื้อขายที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 80 (ช่วงปี 2523) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ซึ่งการพุ่งขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐได้ลดมูลค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในคลังของธนาคารกลางทั่วโลก
ทั้งนี้ จากการรายงานของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ที่มีการขายเงินสกุลดอลลาร์ออกมา เช่น ญี่ปุ่น ขายดอลลาร์สหรัฐ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เกาหลีใต้ ขายราว 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ทางด้านฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และไทย ก็เป็นผู้ขายสุทธิในเดือนก.ย. เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงค่าเงินยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินเยนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี ในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.) ทำให้คาดว่า ทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกเเซงค่าเงิน หลังจากที่ได้ดำเนินการดังกล่าวในเดือนก่อนหน้า
ในอดีต รัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชีย มักจะใช้วิธีการเข้าแทรกแซงในตลาดเงินตราต่างประเทศ เพื่อลดความร้อนแรงหรือควบคุมความผันผวน รวมทั้งทำให้ค่าเงินอ่อนค่า แต่ในเดือน ก.ย. ปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีการขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐออกมามากที่สุด นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 ในเดือน มี.ค. 2563
ทั้งนี้ การลดลงของเงินทุนสำรอง อาจมาจากการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างๆ และการลดลงของมูลค่าของสกุลเงิน แต่ที่สำคัญคือ ธนาคารกลางหลายๆ ประเทศ มีความจำเป็นต้องขายเงินทุนสำรองออกมาเพื่อที่จะมีเงินสดในมือ
เงินทุนสำรองต่างประเทศ กำลังลดลงทั่วโลก โดยเงินทุนสำรองทั่วโลกลดลงมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8.9% ในปีนี้ ซึ่งเป็นลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ บลูมเบิร์กได้เริ่มการรวบรวมข้อมูลในปี 2543
รัฐบาลเอเชียขายเงินสำรองถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในก.ย. หวังปกป้องค่าเงิน - efinanceThai
Read More
No comments:
Post a Comment