
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,550 / 1,540 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 / 1,580 คาดตลาดยังคงอยู่ในภาวะ Risk-off จากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ ยังเป็นปัจจัยสำคัญกดดันจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่ อีกทั้งคาดว่าสัปดาห์นี้ตลาดจะให้ความสนใจกับการแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 22-23 มิ.ย. คาดจะเป็นการส่งสัญญาณปรับใช้นโยบายทางการเงินเพื่อรับมือกับการเร่งตัวขึ้นของภาวะเงินเฟ้อ สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังมีแนวโน้มเกิดภาวะถดถอยในระยะถัดไป สอดคล้องกับการเคลื่อนไหลของ US Bond Yield ที่ยังเกิดภาวะ Inverted Yield Curve ต่อเนื่องโดยอัตราผลตอบแทนรุ่นอายุ รุ่นอายุ 5 และ 7 ปี ปรับตัวขึ้นสูงกว่ารุ่นอายุ 10 และ 30 ปี คาดจะกดดัน-จำกัด Upside ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่
ผสานราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลง -8.03 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 109.56 ดอลลาร์/บาร์เรล (-6.83%) จากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสชะลอตัวลงจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่สำคัญของโลกคาดจะกดดันอุปสงค์น้ำมัน ขณะที่เราแนะนำติดตามแนวโน้มการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน คาดจะเป็นปัจจัยหลักช่วยเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบระยะยาวได้ในระยะถัดไป คาดจะเป็นปัจจัยกดดัน-จำกัด Upside ราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงได้ อย่างไรก็ตามเรามองทิศทางราคาน้ำมันที่เริ่มจำกัด Upside มากขึ้นจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นที่มีต้นทุนเป็นน้ำมันอาทิหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM และ GPSC) คาดมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไป
ในส่วนของปัจจัยในประเทศเรามองตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยลบเป็น Overhang ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปคาดยังกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้อยู่ อาทิ 1.) ความพยายามในการปรับลดราคาน้ำมันผ่านทางการลดค่าการกลั่นของรัฐบาล โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ กระทรวงพลังงาน จะออกมาตรการขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่น ให้นำส่งกำไรส่วนหนึ่งที่เกิดจากการกลั่นน้ำมันส่วนเกิน เข้ากองทุนน้ำมัน กำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค. – ก.ย. ’65 มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น โดยเฉพาะโรงแยกก๊าซของ PTT ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ คาดจะให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ คาดจะกดดันทิศทางตลาดปรับตัวลงได้ 2.) ความกังวลในการเตรียมเก็บภาษีหุ้น (FTT) คาดจะส่งผลให้สภาพคล่อง-มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยลดลงในระยะถัดไป อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงลบต่อการที่ ธปท. ส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยภายในเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้เราคาดว่ามีโอกาสที่ กนง. อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ในการประชุม กนง. เดือน ส.ค. หลังมองเศรษฐกิจไทยและความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อทำให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้า แม้จะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) แต่คาดจะกดดันทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้เช่นกัน มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางตลาดได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “GPSC”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม 64.00 / 62.00 Target 69.00 / 72.50 Stop <60.00
แกว่งออกข้าง - การเงินธนาคาร
Read More
No comments:
Post a Comment