สรุป ระหว่างวันแกว่งตัวไซด์เวย์ขาลงในกรอบ 1,831.63-1,842.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากวานนี้ราคาทองคําผันผวนและปิดลดลง เล็กน้อย 0.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ วันนี้รามีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้ม การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่าง สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ผลการศึกษาร่วมระหว่างรัสเซียและอิตาลีจากห้องปฏิบัติการ RDIF เผยระดับการ ป้องกันสายพันธุ์โอมครอนของผู้ที่รับวัคซีนของสปุตนิก วี ของรัสเซียลดลงไม่มากเท่ากับบุคคลที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ รวมถึงจีนอนุมัติใช้ชุดตรวจโควิด19 แบบใหม่ที่สามารถตรวจหาสายพันธุ์โอมครอน รวมถึงสายพันธุ์อื่นๆอีก 15 สายพันธุ์ ได้อย่างแม่นยํา ทั้งยังมีความรวดเร็วและแม่นยําในการตรวจหา สารพันธุกรรมของไวรัส ประเด็นที่กล่าวมานี้อาจเป็นปัจจัยมากดดันราคาทองคําไว้ได้ สําหรับคืนนี้แนะนําให้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ จะ เปิดเผยดัชนีชี้นําเศรษฐกิจจาก Conference Board ทั้งนี้พิจารณาเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือ หากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอการเปิดสถานะซื้อ เพื่อรอการสร้างฐานราคาที่กรอบแนวรับด้านล่าง
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ 1,827
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,849-1,847
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสกานะซื้อหากหลุด $1,809
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th
Fusion Media or anyone involved with Fusion Media will not accept any liability for loss or damage as a result of reliance on the information including data, quotes, charts and buy/sell signals contained within this website. Please be fully informed regarding the risks and costs associated with trading the financial markets, it is one of the riskiest investment forms possible.
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคค่ำ ตลาดหุ้นเอเชียปิดลบ หนุนราคาทองคำ - Investing.com
Read More
No comments:
Post a Comment