สรุป ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 1,785.40-1,796.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าทองคําจะได้รับปัจจัยลบมาจากตลาดหุ้นเอเชียที่ปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ รวมถึงธนาคารรายใหญ่เผยผลประกอบการที่สดใสดีกว่าที่ตลาด คาดการณ์ ประกอบกับราคา ที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 60,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายนี้ หลังจากคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์เพื่อทําการซื้อขายในตลาดล่วงหน้า อย่างไรก็ตามทองคํายังได้แรงหนุนจากที่ปรับตัวลดลง และค่าเงินปอนด์ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปีนี้ ส่งผลให้ราคาทองคํายังสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ สําหรับคืนนี้แนะนําติดตามยอดค้าปลีกพื้นฐานและยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐ รวมถึงดัชนี ภาคการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดนิวยอร์กและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ทั้งนี้หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะขาย โดยตัดขาดทุนหากผ่านแนวต้านในโซน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับการปิดสถานะขายทํากําไรอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,784-1,773 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนได้ให้ชะลอการเข้าซื้อคืนออกไป
คําแนะนํา หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,800 ตอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะขาย โดยตัดขาดทุนหากผ่านแนวต้านในโซน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับการปิดสถานะขายทํากําไรอาจพิจารณาดู บริเวณ 1,784-1,773 ตอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนได้ให้ชะลอ การเข้าซื้อคืนออกไป
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th
Fusion Media or anyone involved with Fusion Media will not accept any liability for loss or damage as a result of reliance on the information including data, quotes, charts and buy/sell signals contained within this website. Please be fully informed regarding the risks and costs associated with trading the financial markets, it is one of the riskiest investment forms possible.
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคค่ำ ทองเจอแรงกดดันจากตลาดหุ้นและ Bitcoin แต่พันธบัตรหนุน - Investing.com
Read More
No comments:
Post a Comment