Rechercher dans ce blog

Saturday, June 26, 2021

5กูรูจับทิศ 'เงินบาท' ปี64 หลังเฟด-โควิด ทุบสถิติอ่อนค่าสุดรอบ13เดือน - กรุงเทพธุรกิจ

26 มิถุนายน 2564

163

หลังเฟด-โควิดทุบสถิติ "เงินบาท" อ่อนค่าสุดรอบ13เดือน" 5 สถาบันการเงิน" คาดแนวโน้มเงินบาทปี 64 ไทยพาณิชย์ มองอ่อนค่าสุดที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่กรุงไทย มองแข็งค่าสุดที่ 30.25 บาทต่อดอลลาร์ ชี้ไตรมาส 3 ยังอ่อนค่าต่อ แต่ไตรมาส4 กลับทิศได้ ลุ้นวัคซีน

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ถือได้ว่า “เงินบาท”อ่อนค่าทำสถิติสูงสง ในรอบ 13 เดือน ที่ระดับ 31.98 บาทต่อดอลลาร์      ก่อนฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนปลายสัปดาห์ ปิดตลาดที่ ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า เมื่อเทียบกับระดับ 31.45 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 มิ.ย.)

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของ”เงินบาท”รอบล่าสุด ต้องเรียกว่า เกิดจากหลายปัจจัยอ่อนค่ารุมเร้าเงินบาทพร้อมๆ กัน

ดังนั้น สถาบันการเงิน เริ่มมีการทบทวนมุมมองทิศทาง”เงินบาท” ปี2564 รอบใหม่ ดังนี้

1. กรุงไทย               ปรับใหม่ที่                     30.25-31.50 บาทต่อดอลลาร์
2. ไทยพาณิชย์          คงไว้                           31-32 บาทต่อดอลลาร์
3. กสิกรไทย              คงไว้                           30.50 บาทต่อดอลาร์  
4. กรุงศรี                  เตรียมปรับใหม่              เดิม 30.50 บาทต่อดอลลาร์  
5. บลจ.ยูโอบี             คาดไว้                         31.50 บาทต่อดอลลาร์
 
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาททยอยอ่อนค่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจากแนวโน้มธนาคารสหรัฐฯ หรือ เฟด เตรียมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก Dot Plot ล่าสุดที่เฟดส่วนใหญ่เล็งขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2023 อีกทั้งเฟดยังมองว่าอาจเตรียมพิจารณาทยอยลดการอัดฉีดสภาพคล่องลง ซึ่งประเด็นดังกล่าว ทำให้ เงินดอลลาร์ พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก

ถัดมา คือ เรื่องการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ เดลต้า ที่เริ่มทำให้ผู้เล่นในตลาดการเงินกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในฝั่งยุโรป และ เอเชีย ที่เผชิญการระบาดที่รุนแรง ซึ่งภาพดังกล่าวก็ทำให้ ความต้องการสินทรัพย์หลบความผันผวน (Safe Haven Asset) อย่าง เงินดอลลาร์ เพิ่มขึ้น ยิ่งหนุนโมเมนตัมขาขึ้นของเงินดอลลาร์ในระยะนี้

และ ที่สำคัญที่สุด คือ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในไทยที่เลวร้ายลงต่อเนื่อง และแผนการแจกจ่ายวัคซีนที่ล่าช้า อีกทั้งขาดประสิทธิภาพ ทำให้ แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิม กดดันให้นักลงทุนต่างชาติ ทยอยขายสินทรัพย์เสี่ยงไทย อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เราได้ปรับมุมมองเงินบาทปี2564 ที่ระดับ 30.25-31.50 บาทต่อดอลลาร์ ภายใต้เงื่อนไข แนวโน้มการกระจาย”วัคซีน” หากกระจายวัคซีนได้ดี มีโอกาสแข็งกว่า 30.25-30.50 บาทต่อดอลลาร์ แต่หากกระจายวัคซีนได้ไม่ดีและระบาดหนัก น่าจะยังอ่อนค่าที่ 31.50 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ดี เรามองว่า บนภาพเงินบาทอ่อนค่ารุนแรงในรอบ 13 เดือน ในฝั่งนักลงทุนก็อาจหาผลกำไรได้จากการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจที่เน้นการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด อาทิ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ รวมถึง อาหารและ สินค้าเกี่ยวกับยางพารา (สอดคล้องกับรายงานยอดการส่งออกล่าสุดของไทย) ซึ่งเรามองว่า กลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะได้อานิสงส์จากทั้งความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นและการอ่อนค่าของเงินบาท

ทั้งนี้ หากการอ่อนค่าต่อเนื่องของเงินบาทนั้นเกิดจากภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาลง ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อและรุนแรง เรามองว่า อาจไม่ใช่เรื่องดีต่อตลาดการเงิน เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจที่แย่ลงจะกดดันความคาดหวังของผู้เล่นในตลาดต่อทิศทางผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ทำให้อาจมีการปรับเป้าราคาลง และก่อให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงได้ ซึ่งตลาดหุ้นก็อาจถูกแรงกดดันจากการทยอยเทขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องได้

ดังนั้นแล้ว ความหวังทุกอย่างของประเทศไทย ณ เวลานี้ จึงขึ้นกับการควบคุมการระบาด ซึ่งต้องอาศัยการเร่งแจกจ่ายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน อาทิ เร่งฉีด AstraZenecca เข็มที่สอง หรือ เร่งจัดหาวัคซีน mRNA อาทิ Pfizer, Moderna

162470605854

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรากำลังจะปรับประมาณการใหม่จากเดิมมองไว้ที่ 30.50 บาทต่อดอลลาร์ ในสิ้นปีนี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าต่อเนื่องในระยะนี้

ทั้งนี้ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย ทั้งหุ้นและบอนด์มีแนวโน้มผันผวนสูงขึ้น โดยอัตราแลกเปลี่ยนจะอ่อนไหวต่อการสื่อสารจากเฟดและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ต้องติดตามงาน Jackson Hole symposium เดือนส.ค. นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดอาจใช้เป็นเวทีสื่อสารเกี่ยวกับแนวทางการปรับลดขนาด QE ในระยะถัดไป

อีกทั้งยังมีปัจจัยในประเทศ เร่งการอ่อนค่าของเงินบาทด้วยเช่นกัน โดยการแพร่ระบาดและความไม่แน่นอนต่อจังหวะการเปิดเมืองกดดัน sentiment ขณะที่คาดว่าไทยอาจขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเนื่องจากไม่มีรายได้เงินตราต่างประเทศจากนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน และขาดดุลบริการ ส่วนแรงกดดันจากการทวนเข็มนโยบายการเงินโลกจะยังไม่กดดันกนง. เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอ

เช่นกับ นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวท(บลจ.)ยูโอบี มองว่า ครึ่งหลังของปีนี้ตลาดอาจไม่สดใสเท่าครึ่งแรก เชื่อว่า หุ้นโลกจะมีการเปลี่ยนกลุ่มลงทุนต่อเนื่อง คาดว่าจะขยับออกจากกลุ่มความผันผวนสูง ไปเข้า EM Asian ที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าตลาดอื่นในครึ่งปีแรก แนะนำลดการลงทุนในจีนและสหรัฐลง รอจังหวะหุ้นปรับตัวลงและเพิ่มการลงทุนในญี่ปุ่นและไทย

เงินบาทมองปิดสิ้นปีนี้จะกลับมาที่ระดับ 31.5 ได้ในช่วงไตรมาส 4 แต่ไตรมาส3 มีโอกาสอ่อนค่าต่อ โดยกรณีที่แย่ที่สุดคือตลาดการเงินปรับฐานเงินทุนไหลออกและราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจนขาดดุลการค้า อาจเห็นเงินบาทอ่อนได้เหนือ 32.25 บาทต่อดออลาร์

ขณะที่อีกมุมมองหนึ่ง แม้ ”เงินบาท” อาจยังเผชิญกับแรงกดดันด้านอ่อนค่าในไตรมาสที่ 3 ได้ อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มชะลอลงในช่วงปลายปี ที่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์( SCB )หรือ EIC จึงคงประมาณการเงินบาท ณ สิ้นปี2564 ที่กรอบ 31-32 บาทต่อดอลลาร์

รวมถึง  ธนาคารกสิกรไทย ยังคงมุมมองเงินบาทสิ้นปี2564ที่ 30.50 บาทต่อดอลาร์ นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี จะกลับมาแข็งค่า เนื่องจากแนวโน้มการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย การเร่งฉีดวัคซีนทั่วโลก และแนวโน้มการค้าโลกที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังต้องจับตาความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศและโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะมีพัฒนาการอย่างไรต่อไป

ในภาวะ “เงินบาท” อ่อนค่า เป็นปัจจัยหนุน”ส่งออก” เร่งตัวขึ้น บริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในกลุ่มนี้จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำว่า ในช่วงนี้ควรลงทุนเลือกหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 น่าจะปรับตัวดี ได้แก่ กลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์  อาทิ “ KCE CCET”

Adblock test (Why?)


5กูรูจับทิศ 'เงินบาท' ปี64 หลังเฟด-โควิด ทุบสถิติอ่อนค่าสุดรอบ13เดือน - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

No comments:

Post a Comment

เงินบาทผันผวน จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า-เงินเฟ้อเดือนม.ค.ของไทย - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content] เงินบาทผันผวน จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า-เงินเฟ้อเดือนม.ค.ของไทย    ประชาชาติธุรกิจ ดูเรื่องราวจากท...