ธปท.จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้รถ คาดลูกหนี้เข้าร่วม 1 แสนบัญชี - efinanceThai

   ธปท. จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้รถยนต์ช่วยปชช. 1 มิ.ย.-31ก.ค. คาดได้ลูกหนี้เข้าร่วม 1 แสนบัญชี มูลหนี้ 3.8 หมื่นลบ. พร้อมหารือกับสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ช่วยลูกหนี้เพิ่ม พร้อมเล็งปรับเกณฑ์ยึดรถใหม่เพิ่มความเป็นธรรมคนใช้รถทำมาหากิน

   นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. สคบ. กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้รถ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-31 ก.ค.64 นาน 2 เดือน หลังจากประสบผลสำเร็จมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่มีลูกหนี้เข้ามหกรรมช่วยเหลือ 6-7 แสนบัญชี โดยเข้าเงื่อนไข 30% สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว 1.5 แสนบัญชี หรือคิดเป็น 70% และยังมีที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างให้ความช่วยเหลือ

   ทั้งนี้คาดว่ามหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้รถยนต์ครั้งนี้จะมีลูกหนี้เข้าร่วม 1 แสนบัญชี หากคิดมูลหนี้เฉลี่ย 3.8 แสนบาทต่อบัญชี จะคิดเป็นมูลหนี้ให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้น 3.8 หมื่นล้านบาท จากยอดสินเชื่อรถยนต์ในระบบ 2.5 ล้านล้านบาท และเชื่อว่าจะลดการฟ้องร้องดำเนินคดีได้ จากปัจจุบันมีการฟ้องร้องดำเนินคดีลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์กว่า 9 หมื่นคดี ส่วนหนี้เสียเอ็นพีแอลของสินเชื่อรถยนต์ยังไม่สูงมากจนน่ากลัว ยังเป็นระดับที่ยอมรับได้

   “ธปท. ดูแลบริษัทเช่าซื้อ 12 แห่ง ชักชวนมาได้ 8 แห่ง นอกการกำกับดูแล 4 แห่ง รวม 12 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนในตลาดถึง 65% มีทั้งสอดรับกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 และมาตรการของคนเป็นหนี้เสีย ทั้งถูกยึดรถและยังไม่ถูกยึดรถ โดยธปท.จะติดตามความช่วยเหลือให้รายงานมาทุกสัปดาห์” นางธัญญนิตย์  กล่าว
 
   โดย ธปท.ได้หารือกับสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ซึ่งมีผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์บางรายที่อยู่นอกการกำกับของธปท.แต่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ธปท.ขอความร่วมมือช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19

   โดยผู้ประกอบธุรกิจนอนแบงก์รายใหญ่ยินดีช่วยเหลือและมีมาตรการคล้ายกับของธปท. รวมทั้งนำแนวทางธปท.ไปให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตัวเองด้วย ส่วนผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์รายใดที่อยู่ภายใต้กำกับ ธปท.จะต้องทำตามมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทุกแห่ง

   ทั้งนี้ หากลูกหนี้รายใดมีปัญหาเกี่ยวกับความช่วยเหลือและไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งธปท. หากผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าหนี้เป็นสถาบันการเงิน หรือเป็นบริษัทลูกของธนาคาร ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของธปท. แต่เจ้าหนี้ที่เป็นนอนแบงก์อยู่นอกเหนือการกำกับของธปท. สามารถขอความช่วยเหลือจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ได้ เพราะ สคบ.จะเป็นผู้ดูแลสัญญาเช่าซื้อของเจ้าหนี้กลุ่มนี้อยู่

   นอกจากนี้ธปท.ได้หารือกับผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ดูความเหมาะสมพิจารณายกหนี้ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยลูกหนี้ที่ผ่อนต่อไม่ไหวสามารถนำรถมาคืนได้ จากนั้นผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อจะนำรถประมูลขายทอดตลาด และนำเงินที่ได้มากกลบหนี้ แต่หากหนี้ยังไม่หมด จะมีวิธีคือ ปรับโครงสร้างหนี้ ผ่อนแต่เงินต้นไม่คิดดอกเบี้ย ช่วยเหลือหนี้บางส่วน หรือยกหนี้ให้ถ้าเหลือก้อนหนี้ไม่มาก ซึ่งส่วนนี้ต้องดูประวัติชำระที่ผ่านมาต้องวินัยดี ชำระตรง แต่มาติดขัดค้างจ่ายหนี้ช่วงโควิด เช่น บางเจ้าหนี้เห็นว่านำรถไปขายแล้ว แต่หนี้ยังไม่หมดเหลือแค่ 50,000 บาทอาจยกหนี้ให้เลย

   ขณะเดียวกัน ธปท.กำลังพิจารณาเกณฑ์การยึดรถ หรือการบอกเลิกสัญญาใหม่ ให้มีความเป็นธรรมกับลูกหนี้มากขึ้น เพราะมีจำนวนหลายราย เหลือผ่อนรถอีกไม่มาก แต่กลับโดนยึดรถไป เช่น คนขับแท็กซี่ผ่อนรถเกือบหมดแล้ว แต่เกิดเหตุเงินสะดุดผ่อนไม่ได้จากพิษโควิด เหลืออีกแค่ไม่กี่งวด ก็โดนยึดรถไป มองว่าอาจไม่ค่อยยุติธรรมในแง่ผู้บริโภค โดยเฉพาะรถที่ต้องนำมาประกอบอาชีพ ทำให้ธปท.กำลังพิจารณาอยู่ว่าผ่อนไปแล้วเท่าไรถึงบอกเลิกสัญญาได้ หรือห้ามยึดรถ

Adblock test (Why?)

ธปท.จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้รถ คาดลูกหนี้เข้าร่วม 1 แสนบัญชี - efinanceThai
Read More