
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมได้ออกมาตรการการป้องกันแพร่ระบาดโควิด - 19 เพิ่มเติม รวมถึงหาหรือมาตรการทางเศรษฐกิจที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ และกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบโดยจะทำทุกอย่างคู่ขนานกันไป ทั้งในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณการดูแล ซึ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนส่วนจะมากหรือน้อยอย่างไรก็ตามขึ้นงบประมาณที่มีอยู่ และกลุ่มเป้าหมายที่มีผลกระทบ โดยครม.อนุมัติร่างประกาศขยายเวลาและยกเว้นภาษีขาเข้า สำหรับของที่นำมาใช้ในการรักษาวินิจฉัยหรือป้องกันโรคโควิด -19 ออกไปอีก 1 ปี จนถึง เดือนมี.ค. 2565 ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ ช่วยรักษาพยาบาลในการติดเชื้อให้ครอบคลุม คจช.ที่เกี่ยวข้อง เช่นการฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการข้างเคียง ยานพาหนะส่งต่อผู้ป่วย รัฐบาลก็นำมาส่งต่อให้ ขอให้ทุกคนได้สบายใจ
นายกฯ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในส่วนการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทยเศรษฐกิจในครัวเรือนอาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เศรษฐกิจในภาพรวมยังมีการขยายตัว และวันนี้ได้รับรายงานว่าสูงสุดในรอบหลายเดือน มีแนวโน้มกำลังซื้อจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิกฤตโควิดที่มีโอกาส สินค้าเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะพืชผลทางการเกษตร ซึ่งหลายอย่างมีปัญหาอยู่ทั้งอาหารการกินต่างๆ ก็พยายามพัฒนาศักยภาพให้เต็มที่ ใช้นโยบายของรัฐบาลดำเนินการต่อไปในการติดต่อกับประเทศต่างๆทั้งทวิภาคีและพหุภาคี
ขฯะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับรายงานจากกระทรวงการคลังกรณีที่บริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. หรือ JCR ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น จัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้และผู้ออกตราสารหนี้ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ระดับ A- และยืนยันมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ (Stable outlook)
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ผลการจัดอันดับดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ายินดีและสะท้อนให้เป็นมุมมองของต่างประเทศต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยและแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะต้องเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการส่งออกและท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคส่วนที่เศรษฐกิจไทยพึ่งพิงอยู่มาก แต่ด้วยสถานการณ์การเงินและการคลังที่เข้มแข็งของประเทศจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าเต็มที่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งได้
“จากที่ประเทศไทยได้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.เป็นต้นมา พร้อมกับมาตรการควบคุมโรคที่เพิ่มความเข้มงวดขึ้นโดยต่อเนื่อง การดูแลผู้ป่วยอย่างทั่วถึง พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่ารัฐบาลเตรียมความพร้อมเพื่อจะเดินหน้าทั้งมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณที่เพียงพอและจะพิจารณาอย่างรอบคอบในการดำเนินนโยบายที่เกิดประสิทธิผลสูงสุด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
นายกฯ ปลื้ม JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยในระดับที่มีเสถียรภาพ - เดลีนีวส์
Read More
No comments:
Post a Comment