Rechercher dans ce blog

Wednesday, August 31, 2022

งานเข้า ! Michael Saylor ถูกอัยการสหรัฐฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงภาษี ทำหุ้นร่วงแรงถึง 6% โดย Siamblockchain - Investing.com

งานเข้า ! Michael Saylor ถูกอัยการสหรัฐฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงภาษี ทำหุ้นร่วงแรงถึง 6% งานเข้า ! Michael Saylor ถูกอัยการสหรัฐฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงภาษี ทำหุ้นร่วงแรงถึง 6%

Michael Saylor มหาเศรษฐีและผู้สนับสนุน Bitcoin ถูกฟ้องโดยเขตวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นสถานที่ปัจจุบันเขาที่อาศัยอยู่ ในข้อหาฉ้อโกงภาษี โดย Karl Racine อัยการสูงสุดของ DC ได้ประกาศผ่าน Twitter ในวันพุธ Saylor เผชิญคดีฉ้อโกงภาษี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Karl Racine อัยการสูงสุดของ Washington D.C. ได้ประกาศให้ทุกคนทราบทั่วกันว่า Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy ถูกฟ้องในข้อกหาฉ้อโกงภาษี “วันนี้ เรากำลังฟ้อง Michael Saylor ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับมหาเศรษฐีที่อาศัยอยู่ในเขตนี้มานานกว่าทศวรรษ แต่ไม่เคยจ่ายภาษีเงินได้ให้กับ DC เลย และนี่คือลักษณะของการฉ้อโกงภาษี” Racine เขียนในทวีต Racine กล่าวเสริมอีกว่า Washington D.C. ก็ฟ้องบริษัท MicroStrategy เช่นกัน “สำหรับการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการช่วยให้ Saylor หลบเลี่ยงภาษีที่เขาค้างชำระตามกฎหมายมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ ในช่วงเวลาที่เขาอาศัยอยู่ใน DC” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Saylor และบริษัทของเขาประสบปัญหากับการบังคับใช้กฎหมาย โดยย้อนกลับไปในปี 2000 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงทางบัญชีทางแพ่งต่อ MicroStrategy

กดอ่านข่าว งานเข้า ! Michael Saylor ถูกอัยการสหรัฐฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงภาษี ทำหุ้นร่วงแรงถึง 6% ต่อที่ Siam Blockchain

Adblock test (Why?)


งานเข้า ! Michael Saylor ถูกอัยการสหรัฐฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงภาษี ทำหุ้นร่วงแรงถึง 6% โดย Siamblockchain - Investing.com
Read More

Daily SET50 Futures (วันที่ 31 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ

แนวโน้มราคา SET50 Index Futures

แกว่งตัวลง ตลาดหุ้นและนํ้ามันลบ ต่างชาติซื้อ

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

วานนี้ดาวโจนส์ปิดลบ 308 จุด (-0.96%) มาปิดที่ 31,790 จุด หลังจากตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTs) สหรัฐประจำเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.239 ล้านราย สูงกว่าตลาดคาด 10.475 ล้านราย รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 103.2 สูงกว่าตลาดคาด ที่ 97.7 ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถือเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางตลาดหุ้น ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลบ 5.78 (-5.5%) ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มา
ปิดที่ 91.64 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังจาก SOMO ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลอิรักเปิดเผยว่าบริษัทพร้อมจะเพิ่มการส่งออกไปยังยุโรป หากมีความจำเป็น รวมทั้งความกังวลว่า ECB จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจากประธานกลางเอสโทเนีย นายมาดิส มูลเลอร์เปิดเผยว่า ECB ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งหน้า ถือเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางราคาน้ำมัน

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50U22 เคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกมากขึ้นหลังจากยืนได้เหนือ 950 ประเมินแนวรับ 980/970/962/950*/937 และแนวต้าน 992/1002/1011/1022 หากยืนไม่ได้เหนือ 980 อาจแกว่งลงไปแนวรับถัดไป 970/962 แต่หากยืนได้เหนือ 980 อาจแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 992/1002

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U22 ที่แนวรับ 970 และปิดสถานะที่แนวต้าน 980/992 โดยให้จุด Stop loss ที่ 965

สำหรับคนที่ได้เปิด Short สัญญา S50U22 ที่ 980 เมื่อจันทร์ที่ผ่านมาอาจจะได้ปิดสถานะที่ 985

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น
 

คืนนี้ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยุโรปประจำเดือนส.ค. และ ADP รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค. และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ทั้งนี้ตลาดคาด 9.0%YoY และ 2 แสนราย และติดลบ 1.483 ล้านบาร์เรล

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

วานนี้ S50U22 แกว่งตัวขึ้นแรงกว่าคาด โดยทำจุดต่ำสุดที่ 980.2 สลับเด้งฟื้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 991.8 และมาปิดที่ 989.1 โดย S50U22 บวกน้อยกว่าดัชนี ทำให้ Basis ระหว่าง S50U22 และ SET50 อยู่ที่ -5.39จุด (Fair Basis สัญญา S50U22 และ S50Z22 อยู่ที่ -3.99 และ -3.01 จุด)

ประเมินสัญญา S50U22 อาจแกว่งตัวขึ้น หากยืนได้เหนือ 982 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้าน 987/992

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U22 ที่ 982 และปิดสถานะที่แนวต้าน 987/992 โดยให้จุด Stop loss ที่ 977

สำหรับคนที่รับความเสี่ยงสูงและได้เปิด Short ที่ 979.1 เมื่อจันทร์ที่ผ่านมา อาจจะได้ปิดสถานะที่ 985

กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดคือ กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)

Adblock test (Why?)


Daily SET50 Futures (วันที่ 31 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Tuesday, August 30, 2022

Baidu กำไร Q2 สูงกว่าคาด ส่วนรายได้ต่ำกว่าคาด ตาม Investing.com - Investing.com

Baidu กำไร Q2 สูงกว่าคาด ส่วนรายได้ต่ำกว่าคาด © Reuters. Baidu กำไร Q2 สูงกว่าคาด ส่วนรายได้ต่ำกว่าคาด

Investing.com - บริษัท Baidu รายงานประจำไตรมาสที่ 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีรายได้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร

กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ Baidu อยู่ที่ 15.79 จากรายได้ 23.16B ทั้งนี้ ความเห็นของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย Investing.com ก่อนหน้านี้ มองว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ 10.52 ต่อหุ้น บนพื้นฐานรายได้ 29.4B

นอกจาก Baidu ยังมีบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มบริการด้านการสื่อสารของตลาดหุ้นแนสแด็ก ที่รายงานผลประกอบการในช่วงเดือนนี้

ก่อนหน้านี้ Tencent ADR ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 โดยมีกำไรอยู่ที่ 0.2819 ต่อหุ้น จากรายได้ 19.73B เทียบกับคาดการณ์ที่ 0.3769 และรายได้ 19.89B

ขณะที่ผลการดำเนินงานของ Walt Disney จากรายงานล่าสุดนั้นสูงกว่าการพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีผลกำไรประจำไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 1.09 ต่อหุ้น และมีรายรับ 21.5B เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์โดยนักวิเคราะห์ของ Investing.com ซึ่งมองว่าตัวเลขกำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ราว 0.9733 บนพื้นฐานรายรับ 20.99B

ติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทผ่าน ปฏิทินผลประกอบการ ของ Investing.com

Adblock test (Why?)


Baidu กำไร Q2 สูงกว่าคาด ส่วนรายได้ต่ำกว่าคาด ตาม Investing.com - Investing.com
Read More

Daily SET50 Futures (วันที่ 30 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ

แนวโน้มราคา SET50 Index Futures

       แกว่งตัวขึ้น นํ้ามันขึ้นแรง ต่างชาติขาย

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

วานนี้ดาวโจนส์ปิดลบ 184 จุด (-0.57%) มาปิดที่ 32,098 จุด โดยยังคงได้รับปัจจัยลบต่อเนื่องหลังจากประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวล ส่งสัญญานพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมสภาวะเงินเฟ้อและอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าปกติในการประชุมครั้งถัดไป ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 3.95 (+4.2%) ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาปิดที่ 97.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังจากหลายประเทศในกลุ่มโอเปกพลัสแสดงความเห็นว่าอาจปรับลดการผลิตน้ำมัน
ลงเพื่อรับมือกับปริมาณการส่งออกน้ำมันของอิหร่านที่อาจเพิ่มขึ้นมาก หากอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก ทั้งนี้ให้ติดตามผลการประชุมโอเปกในวันที่ 5 ก.ย. ว่าจะมีการปรับลดการผลิตน้ำมันหรือไม่ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาน้ำมัน

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50U22 เคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกมากขึ้นหลังจากยืนได้เหนือ 950 ประเมินแนวรับ 980/970/962/950*/937 และแนวต้าน 992/1002/1011/1022 หากยืนไม่ได้เหนือ 980 อาจแกว่งลงไปแนวรับถัดไป 970/962 แต่หากยืนได้เหนือ 980 อาจแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 992/1002

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U22 ที่แนวรับ 970 และปิดสถานะที่แนวต้าน 980/992 โดยให้จุด Stop loss ที่ 965

สำหรับคนที่ได้เปิด Short สัญญา S50U22 ที่ 980 เมื่อวานนี้ แนะนำปิดสถานะที่แนวรับ 970/962 โดยให้จุด Stop loss ที่ 985

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น

คืนนี้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากซีบีประจำเดือนส.ค.และตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs สหรัฐประจำเดือนก.ค. ทั้งนี้ ตลาดคาด 97.9 และ 10.475ล้านตำแหน่ง

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

วานนี้ S50U22 แกว่งตัวลง โดยเปิดลบทันทีที่ 979.1 จากนั้นชะลอลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 975.2 สลับเด้งฟื้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 984.2 และมาปิดที่ 978.0 โดย S50U22 บวกน้อยกว่าดัชนี ทำให้ Basis ระหว่าง S50U22 และ SET50 อยู่ที่ -7.36จุด (Fair Basis สัญญา S50U22 และ S50Z22 อยู่ที่ -3.92 และ -2.95 จุด)

ประเมินสัญญา S50U22 อาจแกว่งตัวขึ้น หากยืนได้เหนือ 973 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้าน 978/983

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**
 

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U22 ที่ 973 และปิดสถานะที่แนวต้าน 978/983 โดยให้จุด Stop loss ที่ 968

สำหรับคนที่ได้เปิด Long สัญญา S50U22 ที่ 990 เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาอาจจะได้ปิดสถานะที่ 979.1

สำหรับคนที่ได้เปิด Short สัญญา S50U22 ที่ 980 เมื่อวานนี้ อาจจะได้ปิดสถานะที่ 975.2 สำหรับคนที่รับความเสี่ยงสูงและได้เปิด Short ที่ 979.1  เมื่อวานนี้ แนะนำปิดสถานะที่ 975/970

กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดคือ กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)

Adblock test (Why?)


Daily SET50 Futures (วันที่ 30 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

“บล.พาย” คัด 5 กลุ่มหุ้นปลอดภัย รับมือเศรษฐกิจถดถอย ชู TISCO-BCH ผลงานแกร่ง - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi คาดการณ์ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์ปรับฐานแรง 3% หลังประธาน FED ออกมาแถลงในการประชุม Jackson Hole ด้วยท่าทียังคงแสดงความกังวลกับเงินเฟ้อสหรัฐฯพร้อมระบุเป้าหมายเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ 2% แต่ก็ยอมรับว่าการนำเงินเฟ้อลงย่อมสร้างความเจ็บปวดแก่ภาวะเศรษฐกิจ สัญญาณดังกล่าวสอดคล้องกับที่เราประเมินมาตลอดว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแต่ยังการลดลงยังเป็นไปได้ยาก ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.7% รับแรงหนุนจากการที่ซาอุฯส่งสัญญาณจะลดกำลังการผลิต

โดยต้นสัปดาห์มอง SET INDEX จะปรับฐานลงรับแรงกดดันเชิงลบจากตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์และเชื่อว่า Upside ตลาดหุ้นจะเริ่มจำกัดเนื่องจากประเมินว่านักลงทุนจะระมัดระวังมากขึ้นกับการเข้าซื้อหุ้นเพราะความกังวลกับดอกเบี้ยจะเริ่มมากขึ้นและยังประเมินได้ยากว่าดอกเบี้ยจะสิ้นสุดขาขึ้นเมื่อใด

นอกจากนี้ด้วยการที่ประธาน FED แถลงว่าความเจ็บปวดย่อมเกิดขึ้นหากจะควบคุมเงินเฟ้อยิ่งเป็นการสะท้อนว่าผลประกอบการฯ หลังจากนี้อาจเผชิญความเสี่ยงด้านขาลงถือเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโดยตรง

ส่วนปัจจัยในสัปดาห์นี้ยังเน้นไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ (1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐจาก CB Bloomberg ประเมินที่ 97.4 และตำแหน่งงานเปิดใหม่ที่ 10.4 ล้านตำแหน่ง หากออกมาร้อนแรงตลาดจะยิ่งเพิ่มความกังวลกับเงินเฟ้อและเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น (2) ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ (PMI) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg ประเมินที่ 52.1

รวมทั้ง (3) ภาคแรงงานสหรัฐฯในวันศุกร์ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.95 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 3.5% พร้อมกับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ 0.4%  หากตัวเลขออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและกดดันตลาดหุ้น

สำหรับความเห็นล่าสุดของ CME FED Watch ระบุว่า 61% ให้น้ำหนักที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 40% จากช่วงกลางเดือน ส.ค. นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาช่วงเวลาดอกเบี้ยอยู่ระดับสูงก็มักตามมาด้วยเศรษฐกิจถดถอย เชิงกลยุทธ์ยังเน้นลดพอร์ตเช่นเดิมเพราะความกังวลเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และเศรษฐกิจถดถอยยังมิเลือนหายไป

ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเน้นไปที่ Defensive Stock อาทิ โรงพยาบาลและบำรุงสุขภาพ (บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG และบริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA) สื่อสาร (บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH)

รวมถึงหุ้นปันผลสูง (บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO) กลุ่มท่องเที่ยว (บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA) ประเมินกรอบทั้งสัปดาห์ 1,600 – 1,640 จุด

โดยแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TISCO ราคาเป้าหมาย 106 บาท แม้ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจฉุดอุปสงค์สำหรับรถยนต์มือหนึ่งลง แต่คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อในปี 65 จะอยู่ในแดนบวกที่ 3% เมื่อเทียบจากปีก่อน หนุนจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อรถมือสอง และสินเชื่อออโต้แคชที่สูงขึ้น ที่ล้วนได้อานิสงส์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น

โดยแนะนำ “ถือ” หุ้น BCH ราคาเป้าหมาย 21 บาท คาดกลุ่มประกันสังคมจะยังแข็งแกร่งใน ครึ่งหลังปี 65 และหลังจากนั้น หนุนจากฐานผู้ประกันตนจำนวนมากที่ 9.96 แสนราย และการเพิ่มงบของสำนักงานประกันสังคม

Adblock test (Why?)


“บล.พาย” คัด 5 กลุ่มหุ้นปลอดภัย รับมือเศรษฐกิจถดถอย ชู TISCO-BCH ผลงานแกร่ง - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์
Read More

Monday, August 29, 2022

“บล.พาย” คาดหุ้นสัปดาห์นี้กรอบ 1,600 – 1,640 จุด เน้นลดพอร์ตลงทุน - Hoonsmart - https://ift.tt/PLyHQRw

[unable to retrieve full-text content]

“บล.พาย” คาดหุ้นสัปดาห์นี้กรอบ 1,600 – 1,640 จุด เน้นลดพอร์ตลงทุน - Hoonsmart  https://ift.tt/PLyHQRwดูเรื่องราวจากทุกช่องทางใน Google News
“บล.พาย” คาดหุ้นสัปดาห์นี้กรอบ 1,600 – 1,640 จุด เน้นลดพอร์ตลงทุน - Hoonsmart - https://ift.tt/PLyHQRw
Read More

Daily SET50 Futures (วันที่ 29 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ

แนวโน้มราคา SET50 Index Futures

แกว่งตัวลงแรง หุ้นสหรัฐลงแรง ต่างชาติขาย

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

ศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดบวก 1,008 จุด (-3.03%) มาปิดที่ 32,283 จุด หลังจากนายเจอโรม พาวเวลประธานกลางสหรัฐส่งสัญญานว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ และยังไม่ตัดทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติในเดือนก.ย.นี้ แม้ว่าอาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงและตลาดแรงงานอ่อนแอลง ทั้งนี้ Fed Watch Tool ชี้มีโอกาส 64% ที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.75% ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI ส่ง
มอบเดือนต.ค.ปิดบวก 0.54 (0.6%) ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาปิดที่ 93.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นสมาชิกโอเปคออกมาแสดงความเห็นด้วยกับซาอุดิอาระเบียที่อาจปรับลดการผลิตน้ำมันลงเพื่อรับมือกับปริมาณการส่งออกน้ำมันของอิหร่านที่อาจเพิ่มขึ้นมาก หากบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตกถือเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาน้ำมัน

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50U22 เคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกมากขึ้นหลังจากยืนได้เหนือ 950 ประเมินแนวรับ 980/970/962/950*/937 และแนวต้าน 992/1002/1011/1022 หากยืนไม่ได้เหนือ 980 อาจแกว่งลงไปแนวรับถัดไป 970/962 แต่หากยืนได้เหนือ 980 อาจแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 992/1002

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Short สัญญา S50U22 ที่แนวต้าน 980 และปิดสถานะที่แนวรับ 970/962 โดยให้จุด Stop loss ที่ 985

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น

ปัจจัยสำคัญในคืนวันศุกร์ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานสหรัฐประจำเดือนส.ค. ทั้งนี้ตลาดคาด 290,000 รายและ 3.5% นอกจากนี้คืนนี้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากซีบี ประจำเดือนส.ค. ทั้งนี้ตลาดคาด 98.2

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

ศุกร์ที่ผ่านมา S50U22 แกว่งตัว โดยเด้งขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ 995 สลับชะลอลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 987.0 และมาปิดที่ 991.3 โดย S50U22 บวกน้อยกว่าดัชนี ทำให้ Basis ระหว่าง S50U22 และ SET50 อยู่ที่ -4.39 จุด (Fair Basis สัญญา S50U22 และ S50Z22 อยู่ที่ -4.36และ -3.40 จุด)

ประเมินสัญญา S50U22 อาจแกว่งตัวลงแรง หากยืนไม่ได้เหนือ 980 อาจแกว่งตัวลงไปทดสอบแนวรับ 975/970

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**

แนะนำเปิด Short สัญญา S50U22 ที่ 980 และปิดสถานะที่แนวต้าน 975/970 โดยให้จุด Stop loss ที่ 985

สำหรับคนที่รับความเสี่ยงสูง แนะนำเปิด Short สัญญา S50U22 และปิดสถานะที่แนวรับ 970/962 โดยให้จุด Stop loss ราว 5 จุด

สำหรับคนที่ได้เปิด Long สัญญา S50U22 ที่ 990.2 เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาอาจจะได้ปิดสถานะที่ 995 หรอหากได้เปิดสถานะที่ 990 อีกครั้งในช่วงบ่าย แนะนำปิดสถานะที่ 990/995 โดยให้จุด Stop loss ที่ 985

กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด คือ กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)

Adblock test (Why?)


Daily SET50 Futures (วันที่ 29 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Sunday, August 28, 2022

หุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดปรับฐานรับแรงกดดันเชิงลบ แนะลดพอร์ตเล่นระยะสั้น - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content]

หุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดปรับฐานรับแรงกดดันเชิงลบ แนะลดพอร์ตเล่นระยะสั้น  ประชาชาติธุรกิจ
หุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดปรับฐานรับแรงกดดันเชิงลบ แนะลดพอร์ตเล่นระยะสั้น - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

ลงตามตลาดโลก (วันที่ 29 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ

และตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. ของสหรัฐ โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน และ อิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวนำตลาด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,644.78 จุด +1.26 จุด +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 68,733 ลบ. ต่างชาติ -666.54 ลบ. TFEX +345 สัญญา ตราสารหนี้ +3,948.77 ลบ.


ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 93.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 2.9% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่า กลุ่มประเทศผู้โอเปค อาจจะปรับลดการผลิตน้ำมัน ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน และนักลงทุนปรับตัวรับคำเตือนของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เกี่ยวกับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.8% และชะลอตัวจากระดับ 4.8% ในเดือนมิ.ย.
+ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.2 ในเดือนส.ค. โดยสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 55.1 จากระดับ 51.5 ในเดือนก.ค.
+ สศช.เผยอัตราการว่างงานใน 2Q65 ลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่โควิด-19 ระบาด โดยมีผู้ว่างงาน 550,000 คน คิดเป็น 1.37% ขณะที่ชั่วโมงการทำงานปรับตัวดีขึ้นใกล้เคียงช่วงปกติ
+/- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) เพิ่มอีก 1,273 ราย เสียชีวิต 26 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 2,198 ราย

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 1,008.38 จุด หรือ -3.03% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 4.2% ตลาดถูกกดดันหลังนายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นจะต้องมีการคุมเข้มนโยบายไประยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง, ตลาดแรงงานอ่อนแอลง และส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ และระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่สูงพอที่จะควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อ
- เรือรบของสหรัฐ 2 ลำได้แล่นผ่านช่องแคบระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งการแล่นเรือผ่านบริเวณดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อช่วงต้นเดือน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อให้เกิดความขุ่นเคืองกับจีน ซึ่งอ้างว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ
- รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า เดือน ก.ค.65 ขาดดุลการค้า 3,660 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นเงินบาท 139,911.1 ล้านบาท ส่วนช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 65 ขาดดุลการค้า 9,916.3 ล้านดอลลาร์ฯ หรือขาดดุล 417,939.1 ล้านล้านบาท สาเหตุที่ขาดดุลมาจากการนำเข้าสินค้าที่มีราคาสูงตามการสูงขึ้นของตลาดโลก เช่น น้ำมัน และทองคำ

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดโลก โดยตลาดถูกกดดันหลังนายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นจะต้องมีการคุมเข้มนโยบายไประยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,620-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
 

• MSCI Global Standard เพิ่มหุ้นเข้าคำนวณ มีผล 31 ส.ค. : KBANK
• ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว+ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว : MINT ERW CENTEL AWC SHR
• วิกฤตพลังงานยุโรป : PRM VL BANPU LANNA PTTEP
• แอปเปิล ประกาศจัดอีเวนต์ 7 ก.ย.เปิดตัว iPhone 14 : CPW SPVI COM7 SYNEX JMART

หุ้นรายงานพิเศษ

                                         STARK “มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 65

                                   และการเข้าลงทุนใน LEONI” Bloomberg Consensus 6.50 บาท

ลงตามตลาดโลก (วันที่ 29 สิงหาคม 2565)

•งวด 2Q65 กำไร 691 ลบ. +32%YoY +21%QoQ รายได้เท่ากับ 7,332 ลบ. +40%YoY +19%QoQ เติบโตขึ้นจากทยอยส่งมอบงานโครงการภาครัฐและเอกชนตามแผนงาน ประกอบกับได้ผลบวกจากการปรับเพิ่มราคาขายสินค้าสะท้อนราคาทองแดง และอลูมิเนียมที่เพิ่มขึ้น ส่วน %EBITDA = 20.9% (2Q64 = 14.4%, 1Q65 = 19.1%) ปรับดีขึ้นจากการมุ่งเน้นสินค้ากลุ่ม High Margin

•ผู้บริหารคงเป้ารายได้ปีนี้ราว 3 หมื่นลบ. +11%YoY เติบโตจากธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิล โดย ณ สิ้นงวด 2Q65 มี Backlog กว่า 1.4 หมื่นลบ. (สัดส่วนหลักกว่า 55% อยู่ในกลุ่มสินค้า High Margin) ทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และยังมีอีกหลายงานที่อยู่ในระหว่างการประมูลเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ

•การเข้าลงทุนในกิจการ LEONI จะทำให้บริษัทก้าวเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านการผลิตสายไฟและสายเคเบิลใน ASEAN และผู้ผลิตสายเคเบิลสำหรับยานยนต์และ EV charging อันดับ 1 ของโลก มีโอกาสเติบโตขึ้นอีกจากการ Synergy อาทิ การขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ ขอบเขตการขายในภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงการแชร์และบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นซึ่งจะมีการจัดประชุมในวันที่ 23 ก.ย.นี้

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 65 โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปีนี้ราว 3,572 ลบ. +28%YoY (1H65 กำไร 1,270 ลบ. คิดเป็น 35% ของประมาณการทั้งปี) นอกจากนี้ การเข้าลงทุนใน LEONI จะช่วยต่อยอด New-S-Curve การเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต

หุ้นมีข่าว

(+) EA ( Bloomberg Consensus 96.00 บาท) ครึ่งปีหลังผลงานสดใสธุรกิจอีวีทำเงิน ปีนี้มั่นใจส่งมอบ e-Bus ไม่ต่ำกว่า 1,000-1,500 คัน เล็งเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้า-รถกระบะไฟฟ้า ไตรมาส 4/2565 เดินแผน EA Ecosystem เน้นรถเชิงพาณิชย์ ขยายโรงงานแบตเตอรีปีนี้เป็น 2 GW มองโอกาสเทรดคาร์บอนเครดิต คงเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ครึ่งปีหลังแรงว่าครึ่งแรก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SYNEX ( Bloomber Consensus 25.00 บาท) รับทรัพย์ธุรกิจไอทีเข้าไฮซีซัน ดันงบครึ่งปีหลังพีค แถมยิ้มรับกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ดันยอดขายพุ่งทะยาน มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% ตามเป้า แถมแตกไลน์ร่วมทุนไซเบอร์ซีเคียวริตี้ต่อยอด เล็งขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPALL (Bloomberg consensus 73.00 บาท) มั่นใจยอดขายต่อสาขาเติบโตต่อเนื่อง หนุนผลงานครึ่งปีหลังเด่น หลังโควิดคลี่คลายส่งผลให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ ขณะที่นักท่องเที่ยวฟื้น เดินหน้าขยาย 700 สาขาต่อปี ในและต่างประเทศ ชูเดลิเวอรีโตเฉลี่ย 10% ต่อสาขา ย้ำสภาพคล่องสูง เล็งศึกษาเข้าซื้อกิจการต่อยอด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PIMO (Bloomberg consensus - บาท) ส่งซิกเล็งผลิตมอเตอร์ EV รถบัส-รถบรรทุก แย้มเจรจาต่างชาติ ด้านบิ๊กบอส "วสันต์ อิทธิโรจนกุล" ลั่นออเดอร์ทะลัก ยอดชน 1.2 แสนลูกต่อเดือน จ่ออัพกำลังผลิต 30% วางงบลงทุนรวม 25 ล้านบาท ปักหมุดยอดขาย 1.2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

Adblock test (Why?)


ลงตามตลาดโลก (วันที่ 29 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

SET ดิ่ง 22 จุด โบรกฯมอง `Panic Sell` ตามหุ้นโลก กังวลเฟดเร่งขึ้นดบ. - efinanceThai

  หุ้นไทยปรับตัวลงแรงกว่า 22 จุด กังวลการเร่งขึ้นดอเบี้ยของเฟด โบรกฯ มองเกิด "Panic Sell" ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ให้แนวรับอยู่ที่ 1,610 – 1,617 จุด

  ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงตามตลาดต่างประเทศที่ 22.36 จุด ลดลง 1.36% อยู่ที่ 1,622.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,292.96 ล้านบาท โดยมีหุ้น DELTA-PTT-BDMS-AOT-CPALL ฉุดตลาด

  บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่แสดงความมุ่งมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อ ผ่านการใช้นโยบายการเงินตึงตัวเชิงรุก ทำให้คาดว่าจะเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบ ก.ย.65 ที่ 0.75% และคาดดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปี 2565 ที่ 4% ทำให้เกิดอาการ Panic Sell ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งภาพดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันมายังตลาดหุ้นบ้านเราให้เกิด Panic Sell ตามมาได้

  อย่างไรก็ตามพิจารณาจากสถานการณ์ในบ้านเรา ซึ่งเศรษฐกิจอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ประเมินดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปี 2565 ที่ราว 1.25% ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนก็มีการปรับขึ้น ภาวะดังกล่าวทำให้ Market Earning Yield Gap สิ้นปี 65 มาอยู่ที่ 4.5 – 4.6% เทียบกับตลาดโลกที่อยู่ราว 2.3% ณ สิ้นปี น่าจะส่งผลทำให้Fund Flow มีโอกาสไหลเข้าในระยะต่อไป

  SET Index มีโอกาสเกิด Panic Sell แนวรับอยู่ที่ 1610 – 1617 จุด ส่วนแนวต้าน 1650 จุด พอร์ตจำลองวันนี้ ไม่มีการปรับเปลี่ยนหุ้น แต่จะยกจุด Stop Profit ให้สูงขึ้นเพื่อ lock กำไรให้มากที่สุด หุ้น Top Pick เลือก BLA และ KBANK

Adblock test (Why?)


SET ดิ่ง 22 จุด โบรกฯมอง `Panic Sell` ตามหุ้นโลก กังวลเฟดเร่งขึ้นดบ. - efinanceThai
Read More

กยศ. : เมื่อการศึกษาทำให้คุณเป็นหนี้ - บีบีซีไทย

กราฟฟิค

ที่มาของภาพ, Getty Images

ปณิศา เอมโอชา

ผู้สื่อข่าวพิเศษ

บีบีซีไทยคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสินเชื่อเพื่อการศึกษาในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย เพื่อหาคำตอบว่าเหตุใดบางประเทศจึงสามารถยกหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษาให้ประชาชนได้ และมีความเป็นไปได้ไหมที่กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาจะเป็นกองทุนที่บริหารจัดการอย่างคุ้มค่าภาษีประชาชน ในเวลาเดียวกันยังสร้างอนาคตให้ประเทศได้ดีที่สุด

เพื่อต้านกระแส #ล้างหนี้ กยศ. ที่ประชาชนส่วนหนึ่งออกมาล่ารายชื่อออนไลน์แก้ไขกฎหมายชำระคืนเงินกู้ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ชี้แจงว่า การทำเช่นนั้นจะไปตัดโอกาสคนรุ่นใหม่ 

เขาชี้ว่า “กยศ. เป็นกองทุนหมุนเวียนที่ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินในการกู้ยืม” 

แต่หากย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง กยศ. จะเห็นว่าทุนประเดิมในการก่อตั้งมาจากงบประมาณแผ่นดินจำนวน 3 พันล้านบาท และแม้ กยศ.จะเป็นองค์กรที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือรัฐวิสาหกิจ แต่ กยศ.ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

รูปแบบองค์กร กยศ.แตกต่างไปจาก Student Loan Company (SLC) ของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ แต่ SLC ก็ทำหน้าที่ให้เงินกู้เพื่อการศึกษาแก่นักเรียนและนักศึกษา ที่บางส่วนประสบปัญหาไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ได้เช่นเดียวกับในไทยและอีกหลายประเทศ

แต่จุดแตกต่างที่สำคัญ คือ SLC มีการยกหนี้ให้เมื่อถึงเวลาที่กำหนด

“เราไม่อยากทำให้ใครล้มละลาย” เบน วอล์ตแมนน์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส สถาบันศึกษาเศรษฐกิจการคลัง (ไอเอฟเอส) ในสหราชอาณาจักร บอกกับบีบีซีไทย 

เขาอธิบายเพิ่มว่า “มันเข้าใจได้ อย่างน้อยที่สุดสำหรับผม” เนื่องจากเวลาผ่านมาแล้ว 20 ปี ผู้กู้ยังผ่อนหนี้ไม่หมด “ก็ชัดเจนว่า พวกเขาจ่ายไม่ไหวแน่ ๆ ” 

ในอังกฤษและเวลส์ผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาจะต้องเริ่มชำระเงินกู้เมื่อมีรายได้ถึง 27,295 ปอนด์ต่อปี ตัวเลขนี้จะลดลงเป็น 25,000 ปอนด์ต่อปี ตั้งแต่เดือน ก.ย.2023

ในสกอตแลนด์ผู้กู้ต้องเริ่มชำระเงินคืนเมื่อมีรายได้ถึง 25,000 ปอนด์ต่อปี และไอร์แลนด์เหนือ 20,000 ปอนด์

ภายใต้ระบบปัจจุบัน เมื่อกู้เงินไปครบระยะเวลา 30 ปี (รัฐบาลมีแผนจะเลื่อนออกไปเป็น 40 ปี) รัฐบาลจะยกหนี้ให้ผู้กู้ไม่ว่าจะคงค้างอยู่เท่าใด 

หากมองเพียงการยกหนี้ให้ อาจมีผู้คิดว่า สหราชอาณาจักรมีระบบเงินกู้เพื่อการศึกษาดีที่สุดในโลก 

ทว่าในบทความปี 2018 ที่ตีพิมพ์ลงเดอะนิวยอร์กไทม์ส นักเศรษฐศาสตร์ 11 คน เปรียบเทียบการให้เงินกู้เพื่อการศึกษาใน 4 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สวีเดน และสหรัฐฯ ได้ชี้ให้เห็นข้อแตกต่างและข้อดีของแต่ละประเทศ  โดยส่วนใหญ่เห็นว่า ระบบของออสเตรเลียเป็นระบบที่ดีด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยตามฐานเงินเดือนได้ที่ได้รับ คือรายได้มากจ่ายดอกเบี้ยมากกว่า อย่างไรก็ดี ข้อด้อยของระบบออสเตรเลียคือสามารถกู้ได้เฉพาะค่าเล่าเรียน ขณะที่อังกฤษกู้ได้ทั้งค่าเทอมและค่ากินอยู่  ในเวลาเดียวกันค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรสูงกว่าออสเตรเลียมาก

ออสเตรเลีย : “คุณจะเป็นหนี้ไปตลอดชีวิต”

ในปี 1989 ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกของโลกที่บังคับใช้นโยบายการจ่ายคืนสินเชื่อเพื่อการศึกษาโดยผูกกับรายได้ในอนาคตของผู้กู้หรือที่รู้จักกันในชื่อ Income contingent loans (ICL) 

ดร.กวิลิม โครเชอร์ อาจารย์อาวุโสจากศูนย์วิจัยการศึกษาระดับสูงแห่งเมลเบิร์น มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เผยกับบีบีซีไทยว่า แม้หลายประเทศจะหยิบเอานโยบายไอซีแอลไปใช้ อาทิ สหราชอาณาจักร ทว่ากระบวนการดำเนินการจริงมีความแตกต่างกันและมักจะมี “ปีศาจอยู่ในรายละเอียดเสมอ” 

ความแตกต่างหนึ่งระหว่างสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียคือ ในออสเตรเลีย “คุณจะเป็นหนี้ไปตลอดชีวิต” ในกรณีที่คุณไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ดร.โครเชอร์ชี้ว่า รัฐบาลออสเตรเลียไม่มีนโยบายยกหนี้ให้กับประชาชน 

ดร.กวิลิม โครเชอร์

ที่มาของภาพ, Paul Burston

อดีตนักเรียนทุนรัฐบาลสหรัฐฯ (ฟูลไบรท์) ชาวออสเตรเลียผู้นี้ชี้ว่า ก่อนที่จะให้เหตุผลว่า ทำไมการไม่ยกหนี้ให้ประชาชนไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ต้องเข้าใจว่า เงินสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการศึกษานี้มาจากรัฐบาลหรือเข้าใจง่าย ๆ ว่า มาจากภาษีประชาชนนั่นเอง นอกจากนี้ รูปแบบการจ่ายหนี้คืนของออสเตรเลียคำนวณจากฐานเงินเดือนเป็นหลัก 

“ถ้าคุณไม่มีรายได้ คุณก็ไม่ต้องจ่ายหนี้คืน ถ้าคุณตกงาน คุณก็ไม่ต้องทนจ่ายหนี้” คือนโยบายที่ออสเตรเลียใช้

ตามข้อมูลจากรัฐบาลออสเตรเลียพบว่า ณ ปี 2022-2023 ประชาชนจะต้องเริ่มจ่ายสินเชื่อเพื่อการศึกษาคืนก็ต่อเมื่อพวกเขามีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 48,361 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปีขึ้นไป 

ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 48,361-55,836 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ต้องจ่ายสินเชื่อคืนในสัดส่วน 1% ของรายได้เท่านั้น ก่อนที่ขั้นบันไดสัดส่วนการจ่ายคืนจะขยับขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง 10% สำหรับคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 141,848 ดอลลาร์ออสเตรเลียขึ้นไป

ค่าแรงขั้นต่ำของออสเตรเลียตั้งแต่ 1 ก.ค. 2022 เป็นต้นไป อยู่ที่สัปดาห์ละ 812.60 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็นมูลค่าปีละ 42,200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย 

ขณะที่ค่ากลาง (มีเดียน) ของรายรับชาวออสเตรเลียระหว่างปี 2018-2019 อยู่ที่ปีละ 51,389 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ค่ากลางในที่นี้คือเงินเดือนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเงินเดือนที่น้อยที่สุดและมากที่สุดที่มีการจ่ายจริงในประเทศ ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยเงินเดือนที่คำนวณจากการเอาเงินเดือนที่น้อยที่สุดมาบวกกับเงินเดือนที่มากที่สุดและหารด้วยจำนวนแรงงานทั้งหมด)

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ ดร.โครเชอร์ ย้ำคือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาจะขึ้นตามดัชนีราคาผู้บริโภคหรืออัตราเงินเฟ้อเท่านั้น หมายความหนี้ของนักเรียนจะไม่สะสมจนกลายเป็นหนี้ก้อนโต

เด็กผู้หญิงเดินผ่านป้ายมหาวิทยาลัย

ที่มาของภาพ, Getty Images

“มีหลักฐานจำนวนมากที่ชี้ว่า การศึกษาต่อระดับปริญญาช่วยให้คุณหาเงินได้มากขึ้นตลอดชีวิต มันจึงยุติธรรมที่คุณต้องจ่ายคืน” นั่นคือเหตุผลข้อแรกที่ ดร.โครเชอร์ อธิบายสาเหตุที่รัฐบาลไม่ยกหนี้ให้ประชาชน 

ส่วนเหตุผลข้อที่สองคือ “แม้เราจะไม่ยกหนี้ให้ แต่สุดท้ายลูกหนี้บางคนก็ตาย บางคนก็ทำงานพาร์ตไทม์ บางคนต้องดูแลลูกหรือพ่อแม่ หนี้จำนวนหนึ่งจะไม่ถูกจ่ายคืนอยู่ดี” 

ดร. โครเชอร์ ทิ้งท้ายว่า สำหรับออสเตรเลียนโยบายสินเชื่อเพื่อการศึกษามีความสำคัญต่อประชากรอย่างมาก เนื่องจากนโยบายดังกล่าวเปิดโอกาสให้นักเรียนมีทางเลือกในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา 

ฐานข้อมูลที่ธนาคารโลกรวบรวมจาก 142 ประเทศทั่วโลก ในปี 2014 ตอกย้ำว่า การลงทุนในการศึกษาโดยเฉพาะการศึกษาขั้นสูง นำไปสู่การมีรายได้ที่สูงขึ้น โดยเฉลี่ยผู้ที่ได้รับการศึกษามากขึ้นหนึ่งปี จะมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10% โดยในหมู่ผู้ที่ได้รับการศึกษาขั้นสูงมากขึ้นหนึ่งปี จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15%  ระดับประถมศึกษา 11% และ 7.4% ในระดับมัธยมศึกษา

สหราชอาณาจักร : เมื่อคุณมีโอกาสที่จะได้รับการยกหนี้ให้

กลับมาที่สหราชอาณาจักร ปัจจุบันรัฐบาลอังกฤษปล่อยสินเชื่อเพื่อการศึกษาให้นักเรียนราว 1.5 ล้านคน เป็นมูลค่าราว 20,000 ล้านปอนด์ ทุก ๆ ปี หากนับยอดหนี้คงค้าง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2022 ที่ผ่านมา รัฐบาลแบกภาระหนี้อยู่ 182,000 ล้านปอนด์ ทั้งยังประเมินว่าตัวเลขดังกล่าวจะขึ้นไปถึง 460,000 ล้านปอนด์ ในช่วงกลางทศวรรษ 2040 

ที่ผ่านมารัฐบาลเองก็มีความกังวลกับสัดส่วนของผู้กู้เงินที่ไม่มีรายได้เพียงพอในการจ่ายคืนหนี้เช่นเดียวกัน 

เบน วอล์ตแมนน์

ที่มาของภาพ, เบน วอล์ตแมนน์

เว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษระบุว่า “ภายใต้ระบบปัจจุบัน ผู้คนเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยมากกว่าที่เคยมีมา แต่บ่อยครั้งที่นักเรียนไปกระจุกตัวอยู่ในสาขาวิชาคุณภาพต่ำที่ไม่ส่งให้พวกเขาได้งานที่ได้ผลตอบแทนที่ดี” ซึ่งหมายความว่า ผู้กู้เหล่านี้ไม่สามาถจ่ายหนี้คืนได้

ปัจจุบันผู้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาจะได้รับการยกหนี้หลังเวลาผ่านไป 30 ปี แต่รัฐบาลมีแผนเลื่อนเวลาการยกหนี้ออกไปเป็น 40 ปี โดยให้เหตุผลว่า จะช่วยลดภาระของผู้เสียภาษี เพราะปัจจุบันมีคนเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น แต่คาดว่า ผู้ที่กู้เงินเรียนในปี 2020 ทั้งหมด จะมีเพียง 25% เท่านั้นที่จะจ่ายหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษาได้เต็มจำนวน  แต่พรรคเลเบอร์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านระบุว่า การเลื่อนเวลายกหนี้ออกไปจะทำให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบหนักที่สุด

และนายวอล์ตแมนน์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส สถาบันศึกษาเศรษฐกิจการคลัง (ไอเอฟเอส) ในสหราชอาณาจักรก็เห็นตรงกัน

“แม้คุณจะบอกว่า ดอกเบี้ย (เงินกู้) จะถูกลง แต่การผ่อนหนี้ที่นานขึ้นจะส่งผลกระทบกับผู้ที่มีรายได้น้อย” นายวอล์ตแมนน์ย้ำ

การคิดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาในสหราชอาณาจักรจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ผู้กู้ได้รับเงินกู้ แต่อัตราจะแตกต่างกันไป เช่นในอังกฤษและเวลส์ จะคิดตามระดับดัชนีราคาขายปลีก (RPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อและบวกอีก 3%

ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลกำหนดเพดานดอกเบี้ยไว้ที่ 7.3% สำหรับนักศึกษาใหม่ที่จะเข้าเรียนในเดือน ก.ย.2022 แต่ต่อมารัฐบาลกำหนดตัวเลขนี้ใหม่เป็น 6.3% เพราะมีการประเมินกันว่า อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นไปเป็นถึง 12% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นมาก (ล่าสุดเดือน ส.ค. อยู่ที่ 10.1%)

ปัจจุบันผู้เป็นหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาหลายคนต้องอยู่ในสภาพมีหนี้สะสมก้อนโต 

แดน มิอาน เป็นหนึ่งในนั้น เขามีมูลค่าหนี้ราว 40,000 ปอนด์ ณ ปี 2015 หลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาภูมิศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลัฟบะระ (Loughborough) 

ปัจจุบันหนี้ของเขาขึ้นมาอยู่ที่ราว ๆ 45,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นผลมาจากดอกเบี้ยที่สะสม 

นายมิอานยอมรับว่า ณ วันที่ตนเองเลือกศึกษาต่อในสาขาดังกล่าว เขายัง “ไม่พบว่า ตัวเองชอบอะไรกันแน่” แต่ก็สามารถเรียนได้อย่างดี 

ทว่าเมื่อเขาเรียนจบ การดิ้นรนก็เริ่มต้นขึ้น

“ผมตกลงมาอยู่ในจุดตกต่ำของชีวิต สมัครงานกว่า 50 ที่ แต่ก็ไม่ได้เลย จนต้องย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัว” 

หลังจบมาได้ 6 เดือน เขาได้งานในที่สุด แต่นั้นก็ไม่ใช่งานที่เขาอยากทำจริง ๆ เพียงไม่ถึงหนึ่งปีเขาก็ตัดสินใจลาออกจากงาน จากปัญญาทางสุขภาพจิต 

“ตอนนั้นผมคือคนอายุยี่สิบสองปีที่จบปริญญาออกมาพร้อมหนี้ก้อนโต และไม่มีงานทำ ผมแค่คิดว่า ทั้งหมดที่พยายามทำมา มันเพื่ออะไรกันแน่” นายมิอานเล่า 

ปัจจุบันอดีตนักศึกษาจบใหม่ที่เคยต้องดิ้นรนสมัครงานหลายร้อยแห่งเพื่อค้นพบว่า นั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ทำงานเป็นผู้จัดการด้านการตลาดให้กับบริษัทบีที กรุ๊ป ทั้งยังเปิดกิจการให้คำปรึกษากับนักศึกษาที่ประสบปัญหาแบบเดียวกับเขา 

“ผมจบมาแล้วหกปี ได้งานที่ดี ธุรกิจก็ไปได้สวย แต่ผมก็ยังเป็นหนี้อยู่ และเป็นหนี้ในจำนวนที่มากกว่าเดิมด้วย” 

“ผมรู้ว่า มันคือระบบการจ่ายตามขั้นบันไดเงินเดือน แต่นี่มันคือภาษีที่ต้องจ่ายทั้งชีวิต”

นักศึกษา

ที่มาของภาพ, Getty Images

แต่นับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2023 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาสำหรับผู้กู้ใหม่จะคิดตามดัชนีราคาขายปลีกเท่านั้น หรือระดับอาร์พีไอบวก 0%

นายวอล์ตแมนน์อธิบายว่า การจ่ายคืนรูปแบบใหม่นี้อาจถูกมองเป็น “ระบบไฮบริด” ได้ คือ สำหรับคนที่มีรายได้น้อย สิ่งนี้ถูกมองเป็นภาษีประเภทหนึ่งที่ต้องจ่ายไปแทบตลอดชีวิต ขณะที่ประชากรที่มีรายได้สูง นี่นับเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำประเภทหนึ่ง 

ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ นายวอล์ตแมนน์ชี้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า สินเชื่อเพื่อการศึกษาแบบใดดีที่สุดในโลก ทว่าสิ่งที่เขาแนะนำว่า สิ่งที่ผู้กำหนดนโยบายควรหันมาพิจารณามากขึ้นคือ ให้การสนับสนุนคนที่เหมาะที่จะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยให้ได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนคนที่มีเส้นทางอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นที่สังคมจะต้องมีบีบคั้นให้ต้องเรียนต่อระดับอุดมศึกษา 

“มหาวิทยาลัยไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคน และก็เป็นค่าใช้จ่ายราคาแพงของสังคม” นักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษชี้ 

อีกประเด็นที่สำคัญ คือการส่งเสริมให้นักเรียนเข้าถึงสาขาวิชาที่ตอบโจทย์ตลาดการจ้างงาน เขาอธิบายว่า หากคุณเรียนวิชาอย่างเศรษฐศาสตร์หรือแพทย์ที่จะให้ค่าตอบแทนที่สูง ก็มีโอกาสที่คุณจะจ่ายเงินคืนมากกว่า การเรียนวิชาที่ให้ค่าตอบแทนการทำงานต่ำ

“เราต้องคิดถึงสิ่งนี้ การใช้เงินภาษีของประชาชน” 

"ระบบ [สินเชื่อเพื่อการศึกษา] ที่เรามีในปัจจุบัน ดีที่สุดหรือยัง ผมคิดว่า ยัง แต่มันก็ช่วยเด็กได้มาก” นายวอล์ตแมนน์ กล่าว

Adblock test (Why?)


กยศ. : เมื่อการศึกษาทำให้คุณเป็นหนี้ - บีบีซีไทย
Read More

เลขเด็ด 1/9/65 คางคกสีทอง ชาวบ้านเชื่อมาให้โชค จับหงายท้องดูเลขเด็ด - อมรินทร์ทีวี ช่อง34

เลขเด็ดงวดนี้ 1/9/65 ฮือฮา! คางคกประหลาดตัวสีทองกระโดดเข้ามาในบ้าน ยายเจ้าของบ้านแต่งขันธ์ 5 ขอโชคขอลาภ จับหงายท้องเห็นชัดๆ 3 ตัว

เลขเด็ด 1/9/65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ว่ามีคุณยายได้พบคางคกที่แปลกประหลาดมาก เข้ามาในบ้าน ตัวคางคกมีลีกษณะสีที่สวยงามตามลำตัว คือสีออกทองๆ กับสีแดง ทำให้ชาวบ้านต่างมีความเชื่อว่าคางคกตัวนี้จะได้โชคลาภมาให้

ผู้สื่อข่าวลงพื้นมาดู พบยายโปด กฤษธอน เจ้าของบ้าน พร้อมกับชาวบ้านกำลังร่วมกันทำพิธีขอโชคลาภจากคางคกประหลาดโดยมีการเตรียมขันธ์ 5 น้ำแดง เหล้าขาว ทูป - เทียน ผลไม้ จากนั้นก็ได้ทำการไหว้ขอโชคลาภจากคางคก ขอให้ช่วยดลบันดาลให้เห็นตัวเลขให้ชัดเจน ตามมาด้วยจับเอาคางคกออกมาดูตามลำตัวเพื่อที่จะหาเลข มาสะดุดตรงท้องของคางคก ชาวบ้านได้มองเห็นเป็นตัวเลข 3 ตัวตรง คือ 2 3 5 ซึ่งเห็นเป็นตัวเลขชัดมาก ทางคุณยายโปด (เจ้าของบ้าน) และชาวบ้านต่างก็จะนำตัวเลขที่ได้จะไปเสี่ยงโชค ในงวดวันที่ 1 กันยายน 65

ทั้งนี้ นางโปด กฤษธอน อายุ 67 ปี กับ อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 4 ได้เล่าว่าได้พบคางคกประหลาดกระโดดเข้าบ้านช่วงตอนเช้า เมื่อพบคางคกได้เห็นว่ามันแปลกประหลาด มีสีออกสีทองสลับกับแดง ซึ่งตนไม่เคยเห็นและแปลก สวยงาม การที่คางคกเข้ามาในบ้าน ตนมีความเชื่อว่า คางคกน่าจะเอาโชคมาให้ จึงได้เอาไว้เพื่อที่จะนำมาเสี่ยงโชค หลักจากทำพิธีเสร็จได้มองเห็นเลข 2 3 5 ซึ่งทางคุณยาย และชาวบ้านต่างก็จะเอาเลขไปเสี่ยงโชคในงวดนี้

Adblock test (Why?)


เลขเด็ด 1/9/65 คางคกสีทอง ชาวบ้านเชื่อมาให้โชค จับหงายท้องดูเลขเด็ด - อมรินทร์ทีวี ช่อง34
Read More

'เบนท์ลีย์'รุ่นส่งท้าย ก่อนอำลา - เดลินิวส์ออนไลน์

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.

Adblock test (Why?)


'เบนท์ลีย์'รุ่นส่งท้าย ก่อนอำลา - เดลินิวส์ออนไลน์
Read More

Saturday, August 27, 2022

5 สายแปลง HDMI to VGA น่ามีติดบ้านติดออฟฟิศ ต่อง่ายใช้สะดวก เริ่มแค่ 47 บาทเอง! - NBS

มีสาย VGA อยู่แต่ต่อคอมไม่ได้ ต้องมี HDMI to VGA เอาไว้ใช้แล้ว!

vga cover

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างเช่นหน้าจอคอมหรือโปรเจคเตอร์ หลายรุ่นก็ใช้งานได้นานแต่พอร์ตหลายๆ รุ่นก็จะล้าสมัยไปแล้ว เช่น VGA ที่ต้องหาสาย HDMI to VGA มาแปลงให้ใช้งานได้ นั่นเพราะอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และพีซีรุ่นใหม่หันมาใช้สาย HDMI ซึ่งส่งสัญญาณภาพและเสียงได้พร้อมๆ กันและต้นทุนสายแต่ละเส้นก็ราคาถูกลงเรื่อยๆ ไม่เหมือน VGA ที่รับส่งได้แต่สัญญาณภาพอย่างเดียว ผู้ใช้หลายๆ คนจึงเปลี่ยนมาใช้สาย HDMI เป็นหลักนั่นเอง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ใช้คนไหนไปติดต่อพรีเซนต์งานกับบางบริษัทหรือในมหาวิทยาลัยบางแห่งก็ ก็จะมีโปรเจคเตอร์รุ่นเก่าที่ยังคงใช้พอร์ตนี้อยู่ ดังนั้นถ้าเรามีสายแปลง HDMI to VGA ติดตัวไว้สักเส้น ก็จะทำงานได้สะดวกดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาหาสายแปลงหรือเอาสไลด์พรีเซนต์งานไปใส่คอมพิวเตอร์อีกเครื่องให้วุ่นวายเสียเวลาเลย

HDMI to VGA

สเปคของสายแปลง HDMI to VGA Type ความยาว Standard
&
Resolution
ราคา (บาท)
MGBB HDMI เป็น VGA อแดปเตอร์แปลง HDMI เป็น VGA 160 มม. HDMI 1.4

รองรับความละเอียด 1080p

47~96
Vention HDMI เป็น VGA อแดปเตอร์แปลง HDMI เป็น VGA 150 มม. HDMI

รองรับความละเอียด 1080p

89~129
Vention ขั้วแปลง HDMI เป็น VGA อแดปเตอร์หัวแปลง HDMI เป็น VGA หัวอแดปเตอร์สั้นพร้อมช่องหูฟัง 3.5 มม. HDMI

รองรับความละเอียด 1080p

159
Vention สาย HDMI เป็น VGA สายแปลง HDMI เป็น VGA 1.5~5 เมตร HDMI

รองรับความละเอียด 1080p

139~249
UGREEN 40253 HDMI เป็น VGA อแดปเตอร์แปลง HDMI เป็น VGA 150 มม.  HDMI

รองรับความละเอียด 1080p

265

5 สายแปลง HDMI to VGA ต่อจอสะดวก ใช้งานง่าย จอเก่าต่อได้ โปรเจคเตอร์ก็ต่อสะดวก

ปัจจุบันนี้สายแปลง HDMI to VGA ยังหาซื้อได้ง่ายราคาไม่แพงมาก โดยเฉพาะใครที่ต้องออกไปพบลูกค้าอยู่เป็นประจำแล้วไม่แน่ใจว่าอุปกรณ์ของลูกค้าจะต้องใช้พอร์ต VGA ต่อกับเครื่องโปรเจคเตอร์หรือไม่ หรือว่าที่บ้านมีจอคอมเก่าที่ยังใช้งานได้ดีอยู่แล้วไม่อยากซื้อใหม่ก็หาหัวแปลงนี้ไปใช้งานก็จะสะดวกยิ่งขึ้น โดยผู้เขียนเลือกมาแนะนำทั้งหมด 5 เส้น ได้แก่

  1. MGBB HDMI เป็น VGA (47 บาท)
  2. Vention HDMI เป็น VGA (89 บาท)
  3. Vention ขั้วแปลง HDMI เป็น VGA (159 บาท)
  4. Vention สาย HDMI เป็น VGA (139 บาท)
  5. UGREEN 40253 HDMI เป็น VGA (265 บาท)
1. MGBB HDMI เป็น VGA (47 บาท)

dbd14e58a31cc005d7fa35f5c2588b6c

MGBB HDMI เป็น VGA เส้นนี้เป็นหัวแปลงแบบอแดปเตอร์ รับหัว VGA มาแปลงเป็นสาย HDMI เพื่อต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์, ทีวี หรือหน้าจอแยกก็ได้และราคาไม่แพงมาก สายของตัวอแดปเตอร์ยาว 160 มม. แปลงเป็น HDMI 1.4 รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p เป็นสาย Plug&Play ต่อแล้วใช้งานได้เลย โดยรุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำเป็นสายสำหรับต่อคอมพิวเตอร์เท่านั้น หากจะเอาไปต่อเครื่องคอนโซลหรือ BluRay ให้ซื้อตัวมีช่องอแดปเตอร์ในตัวจะใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

สเปคของ MGBB HDMI เป็น VGA
  • Type : อแดปเตอร์หัวแปลง HDMI เป็น VGA
  • Lenght : 160 มม. 
  • Standard&Resolution : HDMI 1.4 รองรับความละเอียด 1080p
  • Price : รุ่นเริ่มต้น 47 บาท, รุ่นมีช่องต่ออแดปเตอร์ 96 บาท (mgbb_2020 Shopee)
2. Vention HDMI เป็น VGA (89 บาท)

71c7d901df61fb8ef3b02407bc47c8d5

รุ่นถัดมาเป็นอแดปเตอร์แปลงรุ่น Vention HDMI เป็น VGA ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพ จะเอาไว้ต่อโน๊ตบุ๊ค, เครื่องคอนโซลหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องต่อหน้าจอก็ใช้อแดปเตอร์ตัวนี้ได้ สำหรับตัวอแดปเตอร์นี้รวมสายแล้วยาว 150 มม. มีหัว VGA ตัวเมีย ต่อออกเป็น HDMI ตัวผู้เข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p โดยรุ่นเริ่มต้นเหมาะสำหรับต่อพีซีหรือโน๊ตบุ๊คเป็นหลัก ถ้าต่อเครื่องคอนโซลหรือเครื่อง BluRay ควรซื้อรุ่นมีช่องจ่ายไฟแยกจะดีกว่า ซึ่งคุณภาพของสายต่อตัวนี้ก็จัดว่าดีไว้ใจได้ไม่แพ้อุปกรณ์อื่นเลย

สเปคของ Vention HDMI เป็น VGA
  • Type : อแดปเตอร์หัวแปลง HDMI เป็น VGA
  • Lenght : 150 มม. 
  • Standard&Resolution : HDMI รองรับความละเอียด 1080p
  • Price : รุ่นเริ่มต้น 89 บาท, รุ่นมีช่องต่ออแดปเตอร์และช่องหูฟัง 3.5 มม. 129 บาท (Vention Shopee)
3. Vention ขั้วแปลง HDMI เป็น VGA (159 บาท)

8c0508b78cec446a1d3391d9e3bcd4ec

Vention ขั้วแปลง HDMI เป็น VGA รุ่นนี้เป็นขั้วต่อแบบเสียบเข้าหัว VGA แปลงเป็นพอร์ต HDMI ได้ทันที ขนาดเล็กพกพาง่าย ใส่กระเป๋าติดไปแปลงหัว VGA แล้วต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊คของเราได้ทันที รองรับความละเอียดหน้าจอสูงสุด 1080p ต่อใช้งานแบบ Plug&Play ไม่ต้องลงไดรเวอร์และมีช่องหูฟัง 3.5 มม. ให้ใช้งานด้วย ถ้าใครเป็นเซลส์ที่ต้องพกคอมพิวเตอร์ไปพรีเซนต์งานเป็นประจำก็แนะนำให้ซื้อหัวแปลงตัวนี้มาเตรียมเอาไว้ได้เลย เพราะผู้เขียนเชื่อว่ามีโอกาสได้ใช้งานอย่างแน่นอน

สเปคของ Vention ขั้วแปลง HDMI เป็น VGA
  • Type : อแดปเตอร์หัวแปลง HDMI เป็น VGA
  • Lenght : หัวอแดปเตอร์สั้นพร้อมช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • Standard&Resolution : HDMI รองรับความละเอียด 1080p
  • Price : 159 บาท (Vention Shopee Mall)
4. Vention สาย HDMI เป็น VGA (139 บาท)

ea71b97ec9bbd52f33df8011e2e9b6d8

ถ้าใครไม่ต้องการอแดปเตอร์แปลงสาย ก็มี Vention สาย HDMI เป็น VGA ให้ซื้อไว้ต่อระหว่างคอมพิวเตอร์เข้ากับหน้าจอหรือโปรเจคเตอร์ในห้องประชุมได้เลย โดยสายเส้นนี้รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p เลือกความยาวได้ตั้งแต่ 1.5~5 เมตร เป็นขั้วต่อตัวผู้ทั้งสองฝั่ง ซึ่งถ้าที่บ้านมีจอคอมรุ่นเก่าอยู่แล้วพีซีเครื่องใหม่ไม่มี VGA ให้ใช้ก็ซื้อสายเส้นนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคของ Vention สาย HDMI เป็น VGA
  • Type : สายแปลง HDMI เป็น VGA
  • Lenght : 1.5~5 เมตร
  • Standard&Resolution : HDMI รองรับความละเอียด 1080p
  • Price : 1.5 เมตร 139 บาท, 5 เมตร 249 บาท (Vention Shopee)
5. UGREEN 40253 HDMI เป็น VGA (265 บาท)

8a8b3c51fea2c33709d4b40ab8ceb4f9

UGREEN 40253 HDMI เป็น VGA ตัวนี้เป็นอแดปเตอร์ VGA ตัวเมียออกเป็น HDMI ตัวผู้ ช่วยแปลงสาย VGA เก่าที่มีอยู่ให้ต่อกับพีซีรุ่นใหม่ๆ ได้ มีชิป Chrontel 7101 ติดตั้งมาให้ช่วยแปลงสัญญาณอนาล็อคเป็นดิจิตอลได้เลย รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p รองรับการใช้งานแบบ Plug&Play ไม่ต้องลงไดรเวอร์ก็ใช้งานได้เลย ตัวสายยาวราว 150 มม. โดยสายเส้นนี้ต่อใช้งานได้ตั้งแต่โน๊ตบุ๊คไปจนเครื่องเล่น BluRay โดยไม่ต้องต่ออแดปเตอร์เพิ่มเลย จัดเป็นข้อดีของรุ่นนี้ไปโดยปริยาย

สเปคของ UGREEN 40253 HDMI เป็น VGA
  • Type : อแดปเตอร์แปลง HDMI เป็น VGA
  • Lenght : 150 มม.
  • Standard&Resolution : HDMI รองรับความละเอียด 1080p
  • Price : 265 บาท (UGREEN Shopee Mall)

backpack studio d6gyCYQU1vc unsplash

แม้สาย VGA จะเก่ามากแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีอแดปเตอร์หรือสายสำเร็จรูปให้ซื้อเอาไว้ใช้งานด้วย ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าถ้าใครต้องไปพรีเซนต์งานบ่อยๆ ก็น่ามีติดเอาไว้สักชิ้น จะช่วยให้ทำงานได้สะดวกมีความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น ส่วนถ้าบริษัทหรือองค์กรไหนมีโปรเจคเตอร์ตัวเก่าที่ยังใช้งานได้ดี ยังไม่อยากซื้อเครื่องใหม่ให้เปลืองเงินก็หาสาย HDMI to VGA มาเตรียมเอาไว้สักเส้น จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินซื้ออแดปเตอร์ใหม่ทั้งเครื่อง ช่วยให้พนักงานในองค์กรและลูกค้าที่มาประสานงานทำงานได้สะดวกขึ้นมาก


บทความที่เกี่ยวข้อง

comcase cover

hdmi cover

dp cover

Adblock test (Why?)


5 สายแปลง HDMI to VGA น่ามีติดบ้านติดออฟฟิศ ต่อง่ายใช้สะดวก เริ่มแค่ 47 บาทเอง! - NBS
Read More

ผู้ใช้งาน Cardano สามารถติดตามความคืบหน้าของการอัพเกรด Vasil แบบเรียลไทม์ได้แล้ว - Siam Blockchain

bitkub-2022-768x90

ผู้ใชงาน Cardano สามารถติดตามความคืบหน้าของการอัพเกรด Vasil ได้ผ่านทางแพลตฟอร์มที่สร้างโดยบริษัท IOG โดยจะอัพเดทความพร้อมของ Vasil สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในวันอังคารและวันพฤหัสบดี ภายในเวลา 16.00 UTC

bitazza-may-768x90

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นาย Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano ได้ทวีตบน Twitter ว่าจะมีการตรวจสอบการอัพเกรด Vasil อย่างระเอียดเพราะนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และได้ขอบคุณทุกคนที่ยังคอยติดตาม Cardano

ล่าสุดนักพัฒนาของ Cardano กำลังดำเนินการทดสอบขั้นสุดท้าบและเตรียมพร้อมสำหรับการทำ Hard fork

ความพร้อมของการอัพเกรด Vasil

การอัพเกรด Vasil ขึ้นอยู่กับการทำงานของโหนดที่ใช้ผลิตบล็อกส่วนใหญ่ที่ใช้เวอร์ชั่น 1.35.5 โดยมีเป้าหมายการอัพเกรดที่ 75% ของบล็อก Mainnet ตามรายงานของ IOG บล็อกจำนวน 48% ของเครือข่ายถูกสร้างโดย Vasil โหนด ในวันที่ 26 สิงหสคม

เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ Hard Fork บน Mainnet บริษัท IOG และ Cardano Foundation ได้ประมาณว่ากระดานเทรดจำนวน 25 แห่ง หรือคิดเป็น 80% ของสภาพคล่องกำลังจะได้รับการอัพเกรด

ในตอนนี้ กระดานเทรด Biture เป็นบริษัทแห่งเดียวที่ระบุความพร้อมสำหรับการอัพเกรด Vasil ในขณะที่กระดานเทรด Binance กำลังอยู่ระหว่างการอัพเกรดโหนด โดยกระดานเทรดส่วนใหญ่ในตอนนี้ยังไม่ได้ทำการเริ่มอัพเกรดโหนด โดยทางบริษัท IOG บอกว่าการอัปเกรดต่าง ๆ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม

นักพัฒนา DApps ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับการอัพเกรด Vasil และตอนนั้ยังมีเวลาให้ทดสอบอยู่ และจากรายงานพบว่า DApps บน Caradano เช่น Minswap, SundaeSwap, WingRiders และ VyFinance กำลังอยู่ในสถานะการทดสอบ

นอกจากนี้ทาง Lending Pond, Aada และ Dquadrant เสร็จสิ้นการทดสอลแล้ว ในขณะที่ DApps อื่น ๆ เช่น MuesliSwap และ AdaxPro กำลังรอข้อมูลการทดสอบอยู่ในขณะนี้

Source : U.Today

Adblock test (Why?)


ผู้ใช้งาน Cardano สามารถติดตามความคืบหน้าของการอัพเกรด Vasil แบบเรียลไทม์ได้แล้ว - Siam Blockchain
Read More

Cardano ขยับลง 10% รับแรงขายในตลาด โดย Investing.com - Investing.com

Cardano ขยับลง 10% รับแรงขายในตลาด Cardano ขยับลง 10% รับแรงขายในตลาด

Investing.com - ราคาซื้อขายล่าสุดของ อยู่ที่ $0.4312 เมื่อเวลา 13:10 (06:10 GMT) ของวันเสาร์ ตาม Investing.com Index ขยับลง 10.01% ในวันเดียวกัน และนับเป็นการปรับลงมากที่ภายใน 1 วันนับตั้งแต่ August 19

แรงขายที่ทำให้ราคาขยับลงนี้ ยังส่งผลให้มูลค่าซื้อขายรวมของ Cardano ลดลงเหลือ  $14.7266B หรือคิดเป็น 1.52% ของมูลค่าตลาดสกุลเงินคริปโตทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่ารวมของ Cardano นั้นเคยแตะระดับสูงสุดที่ $94.8001B

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Cardano มีราคาซื้อขายอยู่ที่ระหว่าง $0.4266 ถึง $0.4360 โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ $1.3762B หรือ 1.46% ของมูลค่าซื้อขายสกุลเงินคริปโตทั้งหมด

ภาพรวมในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มูลค่าของ Cardano อยู่ในร่วง โดยลดลง 5.92% และมีช่วงราคาต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ $0.4264 ถึง $0.4820

ราคาปัจจุบันของ Cardano ยังคงลดลง 86.09% จากระดับสูงสุดที่ $3.10 เมื่อ September 2, 2021

สถานะการเทรดของสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ

มีราคาล่าสุดอยู่ที่ $20,136.2 ตาม Investing.com Index ขยับลง 5.93% ในวันเดียวกัน

แลกเปลี่ยนที่ราคาล่าสุด $1,489.17 ตาม Investing.com Index ลดลง 10.24%

มูลค่าการซื้อขายรวมของ บิทคอยน์ ล่าสุดอยู่ที่ $385.1798B คิดเป็น 39.81% ของมูลค่าตลาดสกุลเงินคริปโตทั้งหมด ขณะที่ Ethereum มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ $181.6783B ซึ่งคิดเป็น 18.78% ของมูลค่าตลาด

Adblock test (Why?)


Cardano ขยับลง 10% รับแรงขายในตลาด โดย Investing.com - Investing.com
Read More

Friday, August 26, 2022

สวพ. FM 91 สถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจร - สวพ. FM 91 สถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจร

กสทช.เปิด 5 ข้อมูลสำคัญให้สาธารณะรับรู้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความชัดเจน โปร่งใส และนโยบายภาครัฐที่เปิดกว้าง   ในกรณีการขอควบรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “ทรูและดีแทค” ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาของประชาชนในทุกภาคส่วนในปัจจุบัน

กรณีการขอควบรวมธุรกิจดังกล่าวถือเป็นดีลใหญ่ในประวัติศาสตร์กิจการสื่อสารของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาก่อให้เกิดคำถามขึ้นในสังคมมากมาย ว่าจะส่งผลกระทบกับผู้บริโภคอย่างไร จะทำให้เกิดการผูกขาดธุรกิจหรือไม่ และเป็นผลดีอย่างไรต่อเศรษฐกิจและประเทศ ตลอดจน กสทช. มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาต/ไม่อนุญาตหรือไม่ นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังปรากฏว่ามีข่าวกุ ข้อมูลเท็จ (fake news)ในกรณีดังกล่าวจำนวนมาก ทำให้ประชาชนสับสน และเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้

ทั้งนี้ เพื่อคลายข้อสงสัยและสื่อสารกับสาธารณะบนหลักฐานและข้อเท็จจริง สำนักงาน กสทช. จึงได้จัดทำข้อมูลในรูปแบบ Infographics ภายใต้หัวเรื่อง “5 Facts กรณีควบรวมทรู-ดีแทค” และเผยแพร่ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ โดยมีรายละเอียดโดยสังเขปดังต่อไปนี้ 

Fact ที่ 1 – ดีลนี้เป็นครั้งแรกที่มูลค่าทรัพย์สินและรายได้ตกกับบริษัทควบรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์การควบรวมกิจการด้านการสื่อสารของประเทศ อาจส่งผลให้ผู้รายใหม่เข้ามาแข่งขันในตลาดได้ยากขึ้น และอาจส่งผลกระทบทำให้การแข่งขันด้านราคาค่าบริการลดลง ที่สำคัญกรณีนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจากการขอรวมธุรกิจในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรวมธุรกิจระหว่างผู้รับใบอนุญาตที่เป็นบริษัทในกลุ่มหรือเครือเดียวกัน หรือเป็นการรวมที่มีสินทรัพย์ไม่เกินวงเงินที่กฎหมายกำหนด รวมถึงกรณีที่เป็นการควบรวมของรัฐวิสาหกิจ CAT กับ TOT เป็น NT ตามมติ ครม.

Fact ที่ 2 – ประสบการณ์การควบรวมกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในต่างประเทศปรากฏผลทั้งที่อนุญาตแบบมีเงื่อนไขเข้มข้นมากและไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นการขอควบรวมจาก 4 ราย เหลือ 3 รายใหญ่ และพบว่าแทบไม่มีประเทศใดเลยที่เป็นการควบรวมจาก 3 ราย เหลือ 2 รายใหญ่อย่างประเทศไทย เว้นแต่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่ควบรวมเหลือ 2 รายแล้ว ผ่านไป 10 ปี จึงมีรายที่ 3 เข้าตลาดมาใหม่ ส่วนประเทศนอร์เวย์นั้น ปรากฏว่ามีรายใหม่เข้าสู่ตลาดพอดีในช่วงที่มีการขอควบรวม หน่วยงานกำกับดูแลจึงบังคับผู้ขอควบรวมให้ขายโครงสร้างพื้นฐานและขายฐานลูกค้าให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ ในประเทศนอร์เวย์จึงยังคงมีผู้ให้บริการในตลาดที่ 3 รายเหมือนเดิม

Fact ที่ 3 – กรอบระยะเวลาในการพิจารณาการควบรวมกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในต่างประเทศที่ผ่านมา มีตั้งแต่ใช้เวลา 3 เดือน จนถึงไม่กำหนดกรอบระยะเวลา ซึ่งประเทศเหล่านั้นเป็นการขอรวมธุรกิจภายใต้บริบทจากผู้ประกอบกิจการ 4 ราย เหลือ 3 ราย ส่วนของประเทศไทยนั้นเป็นการขอรวมธุรกิจจาก 3 ราย เหลือ 2 ราย จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบและรัดกุมยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างสำนักงาน กสทช. ขอขยายระยะเวลาในการปรับปรุงแก้ไขรายงานฯ ตามข้อสั่งการของที่ประชุมที่ให้หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ กสทช. พิจารณาในขั้นสุดท้าย

Fact ที่ 4 – ผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการด้านต่างๆที่กสทช. ชุดปัจจุบัน (ได้รับการโปรดเกล้าฯเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 เมษายน) แต่งตั้งขึ้นภายใต้Roadmap เพื่อพิจารณาดีลการควบรวมนี้ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2565

• คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายชี้ว่า กสทช. มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต ตลอดจนกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำที่เป็นการผูกขาด ลดการแข่งขัน โดยกำหนดเงื่อนไขเท่าที่จำเป็น

• คณะอนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์พบว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ขอรวมธุรกิจจะมีแรงจูงใจในการขึ้นค่าบริการหลังควบรวมสำเร็จ ผู้เล่นรายใหม่จะเจออุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดยากขึ้น GDP จะลดลงราว 0.05% - 1.99% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 0.05 – 2.07% 

• คณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี เห็นว่า กรณีการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้รวมธุรกิจมีผลดี/ผลเสียแตกต่างกัน และผู้ประกอบการที่มีโครงข่ายและคลื่นน้อยที่สุดจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

• คณะอนุกรรมการด้านผู้บริโภค เห็นว่าไม่ควรให้ควบรวม แต่หากให้มีการควบรวม ก็ควรมีการกำหนดเงื่อนไขและมาตรการ ทั้งเงื่อนไขกำกับในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กำหนดให้มีการกระจายการถือครองคลื่นความถี่ เสาโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐาน มีการกำหนดค่าตอบแทนการใช้โครงข่ายที่เป็นธรรม ตลอดจนกำหนดเงื่อนไขกำกับด้านพฤติกรรมของผู้ประกอบกิจการ เช่น การบริการและคุณภาพไม่ต่ำกว่าเดิม รายการส่งเสริมการขายที่หลายหลาย พื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุม พัฒนาขยายโครงข่าย 5G ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อเป็นมาตรการหลักประกันในการให้และรับบริการในด้านต่างๆ ไว้ไม่น้อยกว่าเดิม

Fact ที่ 5 – สำนักงาน กสทช.ได้ดำเนินการจัดจ้างศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านต่าง ๆ จากการรวมธุรกิจระหว่างทรู-ดีแทค โดยขอบเขตอำนาจทางกฎหมายเห็นว่า กสทช.มีอำนาจกำหนดเงื่อนไขและมาตรการเฉพาะเพื่อป้องกันการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขัน ในส่วนมาตรการเชิงโครงสร้างและพฤติกรรมเห็นว่า กสทช.ควรมีการเรียกคืนคลื่นความถี่การถือครองที่มากเกินความจำเป็นและควรมีการกำกับดูแลอัตราค่าบริการ กำหนดสัดส่วนการลงทุนของผู้ประกอบการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อรายได้ รวมทั้งกำหนดความครอบคลุมของพื้นที่การให้บริการ

Adblock test (Why?)


สวพ. FM 91 สถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจร - สวพ. FM 91 สถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจร
Read More

ดาวโจนส์ปิดร่วงหนัก1,008 จุด วิตกเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย - ฐานเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเฟดจะไม่ตัดทางเลือกในการ "ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ" ในเดือนก.ย.
         

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้ตลาดคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในเดือนหน้า โดยคาดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.75%  
         

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวลงในวันศุกร์ นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ, กลุ่มบริการสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยซึ่งร่วงลง 3.9-4.3%
         

หุ้นกลุ่มเติบโตและกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงด้วย โดยหุ้นอินวิเดีย และหุ้นแอมะซอน.คอมร่วงลง 9.2% แล 4.8% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นอัลฟาเบท, เมตา แพลตฟอร์มส และบล็อก อิงค์ ร่วงลง 4.1-7.7%
         

หุ้นเดลล์ เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 13.5% หลังคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการชะลอตัว เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซากระตุ้นให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจคุมเข้มการใช้จ่าย

หุ้นแอฟเฟิร์ม โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยเงินกู้ให้กับผู้บริโภค ร่วงลง 21.3% หลังคาดการณ์รายได้ทั้งปีต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้

Adblock test (Why?)


ดาวโจนส์ปิดร่วงหนัก1,008 จุด วิตกเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย - ฐานเศรษฐกิจ
Read More

Daily SET50 Futures (วันที่ 26 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ

แนวโน้มราคา SET50 Index Futures

           แกว่งตัวขึ้น หุ้นสหรัฐบวก รอแจ็คสันโฮล

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

วานนี้ดาวโจนส์ปิดบวก 322 จุด (+0.98%) มาปิดที่ 33,291 จุด จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเช่น เมต้าและแอปเปิล รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่ง โดย GDP ประมาณการครั้งที่ 2 ของสหรัฐประจำ Q2/2022 หดตัวลง 0.6% ดีกว่าประมาณการครั้งแรกที่หดตัว 0.9% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐประจำสัปดาห์สหรัฐลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 255,000 ราย ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลบ 2.37 (-2.5%) ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาปิดที่ 92.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังจากอิหร่านเปิดเผยว่าได้รับการตอบกลับจากสหรัฐเกี่ยวกับข้อเสนอสุดท้ายที่ร่างโดย EU แล้ว ทั้งนี้หากการเจรจามีความคืบหน้าและสหรัฐยอมตามข้อเรียกร้องอิหร่านจนสามารถบรรลุข้อตกลงได้กับสหรัฐ อาจนำไปสู่การที่อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันเพิ่มเติมได้อีก 1.0-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ถือเป็นปัจจัยลบต่อ
ทิศทางราคาน้ำมัน

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50U22 เคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกมากขึ้นหลังจากยืนได้เหนือ 950 ประเมินแนวรับ 980/970/962/950*/937 และแนวต้าน 992/1002/1011/1022 หากยืนไม่ได้เหนือ 980 อาจแกว่งลงไปแนวรับถัดไป 970/962 แต่หากยืนได้เหนือ 980 อาจแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 992/1002

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U22 ที่แนวรับ 980 และปิดสถานะที่แนวต้าน 992/ โดยให้จุด Stop loss ที่ 965

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น

คืนนี้เวลาไทย 21.00 น.ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลในงานประชุมเฟดประจำปีที่แจ็คสันโฮล นอกจากนี้คืนนี้ติดตามดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ประจำเดือนก.ค. ทั้งนี้ตลาดคาด 4.7%YoY

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

วานนี้ S50U22 แกว่งตัวขึ้น โดยชะลอลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 986.3 สลับเด้งฟื้นขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ 994.5 และมาปิดที่ 990.8 โดย S50U22 บวกน้อยกว่าดัชนี SET50 ทำให้ Basis ระหว่าง S50U22 และ SET50 อยู่ที่ -4.87 จุด (Fair Basis สัญญา S50U22 และ S50Z22 อยู่ที่ -4.36และ -3.58 จุด)

ประเมินสัญญา S50U22 อาจแกว่งตัว หากยืนได้เหนือ 990 อาจแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 995/1000

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**

แนะนำเปิด Long สัญญา S50U22 ที่ 990 และปิดสถานะที่แนวต้าน 995/1000 โดยให้จุด Stop loss ที่ 985

กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดคือ กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)

Adblock test (Why?)


Daily SET50 Futures (วันที่ 26 สิงหาคม 2565) - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

เงินบาทผันผวน จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า-เงินเฟ้อเดือนม.ค.ของไทย - ประชาชาติธุรกิจ

[unable to retrieve full-text content] เงินบาทผันผวน จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า-เงินเฟ้อเดือนม.ค.ของไทย    ประชาชาติธุรกิจ ดูเรื่องราวจากท...